เมื่อสองปีก่อน เพื่อต้อนรับงานกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 29 เขตชุมชนสือจิ่งซานกรุงปักกิ่ง ได้เปิดชั้นอบรมมวยไท้เก็ก โดยเชิญอาจารย์สอนตัวต่อตัว รายการวันนี้ ดิฉันจะนำเรื่องราวเกี่ยวกับชาวเมืองปักกิ่งนิยมเล่นมวยไท้เก็กเพื่อเสริมสุขภาพมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ตอนเช้าทุกวัน ในสวนปั้นโหย้หยวนเขตชุมชนสือจิ่งซานจะเห็นชาวเมืองไปออกกำลังกายมากมาย ที่เด่นชัดที่สุดคือ มีคุณลุงคุณป้าจำนวนไม่น้อยเล่นมวยไท้เก็กอย่างขะมักเขม้น

คุณป้าเหยินหว้านสิ้วกล่าวว่า

"มาฝึกทุกวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 9 โมงประมาณวันละสองชั่วโมง หลังจากมาฝึกไท้เก็กแล้ว รู้สึกตัวเบาลง สุขภาพแข็งแรงขึ้น"

คุณเฉิง เหลียน จง อาจารย์ที่มาสอนไท้เก็กฟรีเล่าให้ฟังว่า ได้ฝึกเฃไท้เก็กหลังจากเกษียณอายุ เวลานี้ นอกจากฝึกเองแล้ว ยังสอนผู้สูงอายุในเขตชุมชนต่างๆ

"สำหรับผู้สูงอายุ ไม่ควรออกกำลังกายหักโหม แต่การเล่นมวยไท้เก็กเหมาะกับผู้สูงอายุ เพราะท่าทางนุ่มนวลและผสานพลังลมปราณ มีประโยชน์ดุจยาอายุวัฒนะ ยิ่งฝึกนานยิ่งชอบ"

อาจารย์เฉิง เหลียน จงเล่าว่า ตั้งแต่คุณลุงคุณป้ามาฝึกมวยไท้เก็กแล้ว โฉมหน้าและจิตใจเปลี่ยนเป็นคนละคน ท่าทางก็กระฉับกระเฉง

"ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย ทุกคนมาเป็นประจำ ใครมีเรื่องกังวลใจ ก็คุยกับเพื่อน พูดแล้ว ก็คลายความกังวลไปหมด การเล่นไท้เก็กไม่เพียงแต่เสริมสุขภาพ ยังมีส่วนช่วยต่อความสมานฉันท์ของสังคมด้วย"

มวยไท้เก็ก ในประเทศจีนมีประวัติหลายร้อยปีแล้ว เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งเพื่อสุขภาพตั้งแต่สมัยโบราณ มีลักษณะของการฝึกสมาธิในการเคลื่อนไหว เน้นการผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นคง คำว่า "ไท้เก็ก" แปลว่ายิ่งใหญ่สุดยอด เป็นสภาวะหนึ่งที่มาจากสภาวะว่างเปล่า มีลักษณะแห่งความกลมกลืนระหว่างพลังสองด้านที่ตรงกันข้ามคือ "ยิน" และ "หยาง" อย่างสมดุลกัน ยินแทนลักษณะของความมืด ส่วนหยางแทนความสว่าง เป็นธรรมดาของสรรพสิ่งที่ย่อมมีลักษณะทั้งสองอย่างหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและปัจจัย