นอกจากที่ฮวงจุ้ยจะเป็นตำราที่ใช้สำหรับเลือกทิศทางการสร้างที่อยู่อาศัยที่ถูกต้องแล้ว ยังใช้สำหรับเลือกฮวงซุ้ยหรือว่าสถานที่ที่ใช้สำหรับฝังศพด้วยทั้งนี้เพราะชาวจีนเขาเชื่อว่านอกจากทำเลที่สร้างบ้านแล้ว หลุมฝังศพของบรรพบุรุษ ก็มีผลกระทบส่งมาถึงบุคคลที่อยู่ในบ้านรวมถึงลูกหลานด้วย ถ้าจะดูตัวอย่างง่าย ๆ ก็ให้ลองนึกถึงหลุมฝังศพของฮ่องเต้จีนในสมัยก่อน ๆเพราะเขาจะพิถีพิถันในการเลือกทำเลมากทีเดียว

สำหรับการเลือกฮวงซุ้ยนี้ชาวจีนเชื่อกันว่าหลุมศพจะต้องอยู่ในที่กำบังลมอย่าให้ลมโกรกได้ และที่สำคัญต้องมีแม่น้ำไหลผ่านและเราต้องสามารถมองเห็นสายน้ำที่ไหลมาได้ โดยน้ำนี่เขาถือว่าเป็นเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อน้ำไหลไปแล้วก็จะต้องมีสิ่งกำบังไม่ให้เห็นครอบครัวถึงจะร่ำรวย

ชาวจีนเชื่อว่าภูเขาเปรียบได้กับจำนวนลูกหลานที่จะมาเกิด และที่สำคัญภูเขานี้ห้ามเป็นภูเขาหัวโล้นเด็ดขาด บนภูจะต้องปกคลุมไปด้วยต้นไม้ และอูมเป็นหลังเต่า ไม่มีร่อง ครอบครัวของผู้ตายถึงจะมีลูกหลานเต็มบ้าน

ในทางตรงกันข้าม คนจีนเชื่อว่าถ้าเราฝังศพของผู้ตายผิดจากหลักของฮวงซุ้ย ครอบครัวของผู้ตายก็อาจจะไม่เจริญรุ่งเรือง บ้านแตกสาแหรกขาด เพราะชาวจีนเชื่อว่าการที่ต้องมีภูเขาในบริเวณที่ฝังศพนั้นก็เพื่อไว้ค้ำยันตระกูล ไม่ให้ล้ม ส่วนที่ต้องมีน้ำก็เพื่อให้มีทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ส่วนที่ว่าถูกทิศทางลมก็เพื่อให้วงศ์ตระกูลมีความอยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง

คนจีนสมัยก่อนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทยนั้นเขาจะนิยมนำศพกลับไปฝังที่บ้านเกิด เพราะเขาว่าที่เมืองไทยนี่หาซินแซที่จะมาช่วยดูฮวงซุ้ยยากมาก บางบ้านนี่ต้องเชิญซินแซมาจากไต้หวันบ้าง จากฮ่องกงบ้าง ค่าใช้จ่ายสูง เชิญซินแซจีนที่อยู่ในเมืองไทยมาดูฮวงจุ้ยให้ครั้งหนึ่งยังตั้งหลายหมื่นบาท เชิญซินแซมาจากทางเกาะไต้หวัน หรือจากเกาะฮ่องกงค่าใช้จ่ายยิ่งสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย บางครั้งตกหลายแสนหรือเกือบล้านก็มี

พอถึงวันเช็งเม้ง บรรดาลูกหลานก็จะมาปัดกวาด ทำความสะอาดและนำอาหารมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษของตน แม้แต่ท่านโจวเอินไหลเอง ท่านก็สั่งให้เผาศพของท่านด้วย ท่านคงต้องการทำให้เป็นตัวอย่าง เพื่อให้ชาวจีนหันมาเผาศพแทนการสร้างฮวงซุ้ย นับว่าเป็นวิธีการที่ชาญฉลาดมากเพราะไม่ใช่แค่ท่านพูดปากเปล่า แต่ว่าทำเป็นตัวอย่างให้ดูด้วย