สำนักข่าวซินหัวรายงานวันที่ ๑๖ กันยายนที่ผ่านมาว่า สถานรักษาพยาบาลในท้องที่ต่าง ๆ ของจีนใช้ความพยายามเต็มที่ในการรักษาทารกและเด็กที่เป็นโรคนิ่วระบบขับถ่ายปัสสาวะเนื่องจากรับประทานนมผงยี่ห้อ ซานลู่ ที่ปนเปื้อนสารเคมี กระทรวงสาธารณสุขจีนเผยว่า จนถึงวันที่15 กันยายนนี้เวลา8นาฬิกา สถานรักษาพยาบาลทั่วประเทศได้วินิจฉัยว่ามีเด็ก 1253 คนเป็นนิ่วในเนื่องจากได้รับประทานนมผงยี่ห้อซานลู่ นอกจากนี้ ได้ยืนยันว่ามีเด็กสองคนเสียชีวิตเนื่องจากรับประทานนมผงยี่ห้อซานลู่ หน่วยงานสาธารณสุขจีนกำลังพยายามดำเนินการตรวจสอบและรักษา

นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีจีนเริ่มปฏิบัติตามกลไกรับมือกับเหตุการณ์ความปลอดภัยด้านอาหารระดับร้ายแรงที่สุดเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายนเป็นต้นมา รัฐบาลส่วนกลางจีนได้จัดตั้งศูนย์รับมือกับภาวะฉุกเฉิน และเร่งตรวจสอบนมผงยี่ห้อ ซานลู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นและสถานรักษาพยาบาลของมณฑล เหอเป่ย กันซู่ ชิงไห่ เหอหนาน เจียงซู และเจียงซีเป็นต้น ตรวจวินิจฉัยและรักษาเยียวยาทารกและเด็กเรือนพันเรือนหมื่น เพื่อคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของทารกและเด็ก

นายหวัง อยู่ อธิบดีกรมกิจการการรักษาพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า หน่วยงานสาธารณสุขต่างๆได้เตรียมพร้อม เขากล่าวว่า

"ไม่ว่ามีผู้ป่วยจำนวนเท่าไร ระบบการรักษาพยาบาลของจีนก็เตรียมพร้อมแล้วในการตรวจวินิจฉัยและรักษา จากโรงพยาบาลระดับต่างๆ ถึงบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ถึงเครื่องอุปกรณ์ ถึงเตียงผู้ป่วยล้วนไม่มีปัญหา จีนมีกำลังรักษาพยาบาลพอเพียงในการรับมือกับเหตุการณ์ครั้งนี้"

การตรวจสอบเหตุการณ์นมผงพิษซานลู่ยังดำเนินต่อไป ผลการตรวตสอบขั้นต้นปรากฎว่า ผู้มุ่งเก็งกำไรได้เติมสารเมลามีน(melamine)เพื่อเพิ่มปริมาณโปรตีนในน้ำนมและนมผงขณะที่ตรวจคุณภาพนมผง จนทำให้ทารกเป็นนิ่วในระบบขับถ่ายปัสสาวะ ขณะนี้ ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่งแล้ว

นายเกา เฉียง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าหน่วยจัดการและรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินของคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ในขณะที่ต้องจัดการเหตุการณ์นี้ให้ดี จีนยังจะถือเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ ควบคุมและปรับปรุงคุณภาพของอาหารอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น เขากล่าวว่า

"กระทรวงฯจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวนบทเรียนอย่างจริงจัง ตรวจและค้นหาผู้กระทำความผิดแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของอาหาร รวมถึงปัญหาในด้านการควบคุมคุณภาพของวิสาหกิจและหน่วนงานรัฐบาล กำหนดมาตรการที่มีประสิทธิผล เพื่อให้อาหารของจีนมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น"