นัส ค.ศ. 93 จางเหิงซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 15 ปี ได้ตัดสินใจออกจากบ้าน เพื่อเดินทางท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้ โดยเริ่มจากการเป็นทหาร หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 95 ได้เดินทางไปถึงเมืองลั่วหยาง และใช้ชีวิตอยู่ที่นั้นราว 5-6 ปี ระหว่างนั้น จางเหิงได้เที่ยวไปตามสำนักต่าง ๆ เพื่อขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ค่ะ

หน่า ค.ศ. 108 จางเหิงได้เดินทางกลับบ้านเกิด และห้าปีหลังจากนั้น จางเหิงซึ่งแต่เดิมได้ศึกษาเกี่ยวกับภาษาและวรรณคดี ได้เริ่มหันมาศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับวิชาปรัชญา ดาราศาสตร์ ปฎิทินและคณิตศาสตร์ และนี่เองนะคะ ก็เป็นจุดกำเหนิดให้จางเหิงคิดค้นเครื่องมือวัดแผ่นดินไหวเครื่องแรกของโลกได้สำเร็จ

นัส ซึ่งปีที่จางเหิงคิดค้นเครื่องมือวัดแผ่นดินไหวเครื่องแรกได้สำเร็จนั้นตรงกับปี ค.ศ. 132 โดยเครื่องมือวัดแผ่นดินไหวนี้ เป็นอุปกรณ์วัดความสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ที่วัดได้ทั้งความรุนแรง ทิศทาง และต้นกำเหนิดของแผ่นดินไหวค่ะ

หน่า ตัวเครื่องมือวัดแผ่นดินไหวทำจากทองแดงคุณภาพดี มีรูปร่างคล้ายกับแก้วน้ำชาขนาดใหญ่ ภายนอกมีหัวมังกรห้อยออกมาแปดตัว หันไปยัง 8 ทิศทาง ได้แก่ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ค่ะ

นัส ในปากของมังกรทั้งแปดจะคาบลูกทองแดงไว้ตัวละหนึ่งลูก และด้านล่างของปากมังกรนั้นจะมีคางคกนั่งหมอบเชิดคอขึ้นและอ้าปากรออยู่ทั้งหมดแปดตัว

หน่า ที่เค้าสร้างขึ้นมาแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่ ๆ เลยใช่มั๊ยคะคุณนัส

นัส ใช่แล้วค่ะ แต่ว่านัสจะยังไม่บอกตอนนี้นะคะ เพราะว่า ตอนนี้ได้ว่าพักฟังเพลงแล้วหละคะ ช่วงนี้นัสมีเพลงเพราะ ๆ ฟังสบายจาก ที่มีชื่อว่า มาให้ฟังกันค่ะ แล้วหลังพักเบรคกลับมาอยู่กับเราสองคน นัสและน้อยหน่ากันต่อค่ะ

หน่า ฟังเพลงเพราะ ๆ จบแล้วนะคะ ช่วงที่แล้วเราค้างกันไว้ที่ว่า ทำไมจางเหิงเค้าต้องสร้างเครื่องมือวัดแผ่นดินไหว ให้มีรูปร่างเหมือนถ้วยน้ำชาขนาดไหน แถมภายนอกยังมีมังกรห้อยหัวคาบลูกทองแดงไว้แปดตัว แถมด้านล่างยังมีคางคกอ้าปากรออีกนะคะ เรื่องนี้คงต้องถามคุณนัสแล้วหละค่ะ

นัส ค่ะ สาเหตุที่จางเหิงเค้าประดิษฐ์เครื่องมือให้มีลักษณะแบบที่คุณหน่าว่านั้นนะคะ ก็เป็นเพราะว่า เมื่อเกิดแผ่นดินไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่งนั้นนะคะ มังกรที่อยู่ทางทิศนั้นก็จะอ้าปาก และลูกทองแดงก็จะร่วงเข้าสู่ปากของคางคก ซึ่งถือเป็นการรายงานว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นทางทิศไหน