ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของ 10 ประเทศอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้แถลงการณ์ร่วมที่เกาะบาหลีประเทศอินโดนีเซียว่า จะตั้งกองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศแห่งภูมิภาคเอเชียหรือกองทุนเอเชียที่มีขนาด 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นก่อนสิ้นปีนี้และเริ่มดำเนินงาน วันเดียวกัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็ได้บรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับสัดส่วนการออกทุนสมทบในกองทุนเอเชียฟันด์ด้วย

วันที่ 2-5 พฤษภาคมนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชียจัดการประชุมประจำปี เพื่ออภิปรายประเด็นต่างๆ เช่น การช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนารับมือกับวิกฤตการเงิน เป็นต้น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของ 10 ประเทศอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้แถลงการณ์ร่วมว่า รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง "10+3"ได้บรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์ในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการสร้างกองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศแห่งภูมิภาคเอเชีย เช่น สัดส่วนการสมทบทุน วิธีกู้เงิน และกลไกควบคุมดูแล เป็นต้น และเห็นพ้องต้องกันที่จะสร้างองค์กรควบคุมที่เป็นอิสระโดยเร็ว เพื่อควบคุมและวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจของภูมิภาคและสนับสนุนนโยบายการดำเนินงานของกองทุนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง "10+3"ยังเห็นชอบที่จะจัดตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อกระชับความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชียและสำนักงานเลขาธิการอาเซียน เสริมสร้างกลไกควบคุมที่มีอยู่ในปัจจุบัน กำหนดกฏเกณฑ์การควบคุมบริหารกองทุนนี้

ตามแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะสมทบทุน 80% อาเซียนสมทบทุน 20% ในจำนวนนี้ จีนสมทบทุน 38,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ญี่ปุ่น 38,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เกาหลีใต้ 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามสัดส่วนการสำรอง 32% 32% และ 16% ตามลำดับ ถ้าหากเกิดวิกฤตการเงิน กองทุนจะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศประสบปัญหาในการกู้เงิน

แหล่งข่าวแจ้งว่า การเตรียมสร้างกองทุนเอเชีย มีเป้าหมายสำคัญสองประการ หนึ่ง แก้ปัญหาเงินทุนหมุนเวียนลำบากระยะสั้น สอง เป็นส่วนเสริมองค์กรการเงินระหว่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ วันเดียวกัน นายหลี่ หย่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจีนกล่าวในประชุมประจำปีฯว่า หลังจากผ่านวิกฤตการเงินเอเชียแล้ว ประเทศในเอเชียมีระบบการเงินค่อนข้างมั่นคง ภาพรวมทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี มีความสามารถที่จะรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เขากล่าวว่า ประเทศต่างๆควรเรียกร้องประชาคมโลกต่อต้านลัทธิกีดกันทางการค้า ผลักดันการเจรจารอบโดฮาขององค์การการค้าโลกต่อไป เพื่อสร้างระบบการค้าแบบพหุภาคีที่มีความเที่ยงธรรม สมเหตุสมผลและมั่นคง

นักวิเคราะห์เห็นว่า การสร้างเอเชียฟันด์ มีความสำคัญต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจและการเงินในภูมิภาค การกระทำเช่นนี้ จะปรับเปลี่ยนเครือข่ายการช่วยเหลือแบบทวิภาคีที่หละหลามให้เป็นกลไกช่วยเหลือแบบพาหุภาคีที่กระชับยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการเงินในส่วนภูมิภาคให้สูงขึ้น เสริมขีดความสามารถต่อการต้านความเสี่ยงทางการเงิน และมีอิทธิพลต่อการปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น