ชาวคณะผู้เชี่ยวชาญนานาประเทศ

สวัสดีครับท่านผู้ฟัง พบกับรายการสถานีต่อไปเป็นประจำทุกสัปดาห์เช่นเคยนะครับ สัปดาห์นี้ผมขออนุญาตพาท่านผู้ฟังออกนอกเส้นทางของรถไฟฟ้าใต้ดินไปไกลสักหน่อยนะครับ เพราะว่าเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ทางแผนกวิเทศสัมพันธ์ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลผู้เชี่ยวชาญต่างชาติโดยเฉพาะได้จัดให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ทำงานเป็นอาจารย์สอนหนังสือ ทำงานวิทยุ และผู้อาวุโสทั้งจากประเทศไทย ลาว พม่า ซึ่งถือปฏิทินจันทรคติเช่นกัน และมีวันตรุษปีใหม่ในช่วงเดียวกันได้วันหยุด และพาไปท่องเที่ยว พร้อมรับประทานอาหาร แต่ก็คงจะมีจำนวนน้อยเกินไป แผนกวิเทศฯ จึงได้จัดให้ผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่มาจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดคือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนาม จึงได้อิ่มหนำสำราญใจไปพร้อมกัน และได้กระชับสัมพันธ์กันกลมเกลียวยิ่งขึ้น ทำให้ภายในรถบัสขนาดเล็กวันนั้นเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงพูดภาษาไทย ลาว มาลายู อังกฤษ และจีน

การเดินทางในวันนี้ของเรามีจุดหมายที่ "พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์แห่งชาติ" ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงปักกิ่ง ไม่ไกลจากสนามบิน และเมืองศิลปะ 798 มากเท่าใดนัก แต่ก็ถือว่าไกลสำหรับชาวซีอาร์ไอ ซึ่งสำนักงานอยู่ทางฟากชานเมืองตะวันตก ต้องอาศัยถนนวงแหวนสายที่ 5 วนไปราวชั่วโมงเศษ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเวลาที่รวดเร็วยิ่ง

ดานหน้าพิพิธภันณฑ์

พูดถึงถนนในกรุงปักกิ่งนั้น ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพราะ"ผังเมือง" ได้ถูกวางไว้รองรับการขยายของเมืองได้เป็นอย่างดี กรุงปักกิ่งนั้นมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พระราชวังต้องห้ามและจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีวงแหวนที่ 1 วนรอบทั้งสี่ทิศเป็นรูปสี่เหลี่ยม แล้วมีถนนฉางอานลากผ่านจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เมื่อมองจากสายตาของนก จะเห็นเส้นถนนสี่เหลี่ยม ที่ถูกผ่ากลางด้วยถนนตรงแด่วนี้คล้ายกับตัวอักษรจีนคำว่า "จุง" ที่แปลว่า "กลาง" ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีว่า ชื่อของประเทศจีนนั้นก็คือ "จุงกั๋ว"

แต่พอเมืองขยาย มีผู้คนมาอาศัยในกรุงปักกิ่งมากขึ้น ความเจริญที่เคยกระจุกอยู่ที่รอบพระราชวัง ก็ได้ขยายออกไป แล้วจึงมีการสร้างถนนเป็นวงรอบ เพิ่มขึ้นซึ่งปัจจุบันมีถึง 5 วงแล้ว และถนนฉางอานก็ได้ต่อยาวออกไปเพื่อให้ตัดกับวงถนนใหม่ๆ เหล่านี้ ซึ่งทำให้สามารถรองรับการจราจรได้เป็นอย่างดี