China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-07-03 16:34:13    
มิตรภาพระหว่างจีนกับไทย
บทสัมภาษณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

cri

เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายนที่ผ่านมา นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอภายหล้งได้เข้าร่วมพิธีเปิดของ "งานเปิดโลกภาษาและวัฒนธรรมจีน " ที่สถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่เขต ๔ ร่วมกันจัดขึ้น ณ ห้องประชุมใหญ่อาคารศูนย์การเรียนรู้ โครงการสวนเฉลิมระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๔๙ ซึ่งนายอมรพันธ์ นิมานันท์ได้ทบทวนถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และแสดงความเชื่อมั่นว่า สัมพันธภาพไืทย?จีนจะกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ต่อไปขอเชิญท่านฟังคำให้สัมภาษณ์ของนายอมรพันธ์ นิมานันท์ครับ

อมรพันธ์ นิมานันท์:เมืองไทยกับเมืองจีนมีความใกล้ชิดกันมาก ประวัติศาสตร์ยาวนานมาพันกว่าปีแล้ว ตั้งแต่ไทยสถาปนาจากสุโขทัยขึ้นมาเมื่อปี 1800 ครั้งนั้น ไทยกับจีนก็มีความสัมพันธ์กันแล้ว ในยุคหลังๆ มานี้ ประมาณ 200 ปีที่ผ่านมา ก็มีพี่น้องชาวจีนอพยพมามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ในเมืองต่างๆ มากมาย เมืองเชียงใหม่ก็เป็นเมืองหนึ่งที่มีพี่น้องชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่มาก จนกระทั่งได้มีธุรกิจการค้า มีหลักฐานบ้านช่อง มีลูกมีหลาน มีความสัมพันธ์เกิดขึ้นในถิ่นฐานเมืองเชียงใหม่เยอะมาก ลูกหลานของคนจีนก็ทําธุรกิจอยู่ที่เชียงใหม่ ผสมกลมกลืนกับคนที่เชียงใหม่ ความสัมพันธ์ไทยจีนก็แน่นแฟ้นมากขึ้นตั้งแต่ผมเป็นรองผู้ว่าจังหวัดต่างๆ ก็เดินทางไป และก็มีโอกาสได้ไปร่วมในการสถาปนา"บ้านพี่เมืองน้อง"ระหว่างเชียงใหม่กับเซี่ยงไฮ้ และก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหลายปีนี้ ก็มีความสัมพันธ์กับทางจีนหลายเมือง เป็นผู้ว่าที่เชียงใหม่บ้าง เป็นผู้ว่าตากบ้าง อยู่ที่จังหวัดตากก็ได้ริเริ่มสถาปนาความเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับเมืองเต๋อหอง เมืองเต๋อหองก็เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของมณฑลยูนนาน อยู่ทางตะวันตก จะติดกับด้านตอนเหนือของพม่า เมื่ออยู่เชียงใหม่ มีความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับชิงเต่า ฉงชิ่ง คุนหมิง หอการค้าเชียงใหม่ก็เป็นหอพี่หอน้องกับทางจีนหลายเมือง ไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะจัดการประสานงานในการเดินทางขึ้นไปที่จิ่งหอง เดินทางไปที่คุนหมิง เดินทางไปที่เฉินตู เพื่อจะไปพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุน การศึกษา มหาวิทยาลัยแลกเปลี่ยนกันมากยิ่งขึ้น การเยือนของผู้บริหารจีน นักธุรกิจจีนที่จะลงมาเยือนเชียงใหม่ตามคําเชิญมากขึ้น มาติดต่อการค้ามากยิ่งขึ้น ทางฝ่ายเชียงใหม่เองก็ขึ้นไปเยือนเมื่องต่างๆ ของจีนมากยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ของเราก็เป็นมาอย่างดีตลอด สิ่งหนึ่งที่ทางเชียงใหม่เองกําลังจะขึ้นไปปรึกษากับผู้บริหารของรัฐบาลท้องถิ่นจีนที่เมืองต่างๆ ก็คือเรื่องของการท่องเที่ยว ขอให้พี่น้องชาวจีนได้มีโอกาสลงมาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่ และจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือด้วย ไม่ว่ามาทางบก มาทางรถยนต์ มาทางเรือแม่นํ้าโขง หรือมาทางเครื่องบินก็ตาม ความสัมพันธ์ต่างๆ ก็จะดีขึ้น ทั้งๆ ที่เรามีนักศึกษาจีนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎของเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยอื่นของเชียงใหม่อีก

ผู้สื่อข่าว:อยากให้ท่านเล่าถึงความหมายหรือความสําคัญของกิจกรรมวันนี้

อมรพันธ์ นิมานันท์:มีอยู่ 2 ระยะ ระยะแรกก็คือเรื่องภาษา ในสังคมของเรา ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศจีนก็ตาม ที่ประเทศไทยก็ตาม หรือประเทศอื่นๆ ก็ตาม คนในยุคสมัยใหม่นี้ ถ้าเรามีโอกาสได้เรียนรู้ภาษา ทั้งการพูด การเขียน การอ่าน ยิ่งได้ดีมากเท่าใด และได้หลายภาษามากเท่าไหร่ ก็คงจะเป็นโอกาสที่ดีสําหรับสังคมทั้งหลายในประเทศต่างๆ ปัจจุบันนี้มาก ถ้าเรารู้ภาษาไทยภาษาเดียว เราจะติดต่อค้าขายกับใครในสังคมโลกปัจจุบันนี้ซึ่งกว้างขวางมากก็คงจะไปไม่ได้ คนที่รู้ภาษาจีนภาษาเดียวจะติดต่อค้าขายกับใครก็คงจะลําบากเหมือนกัน คนที่อยู่ที่อเมริกา อังกฤษ พูดภาษาอังกฤษได้อย่างเดียวก็คงจะติดต่อกับค้าขายกับผู้อื่นยาก คนที่เรียนหนังสือจบกฎหมายมา จบวิศวกรมา เป็นวิศวกร ถ้าพูดแต่ภาษาของตัวเอง การที่ทํามาค้าขาย ทํามาหากินก็คงจะแคบ ถ้าจบกฎหมายมา แต่พูดภาษาจีนได้อย่างดีด้วย ก็คงจะทําให้มีโอกาสในการที่ทําธุรกิจ กฎหมายหรืออะไรแล้วแต่มากยิ่งขึ้น จบวิศวกรมา ได้แต่ภาษาไทยอย่างเดียว ก็คงจะทํางานในแถวนี้ แต่ถ้าพูดภาษาจีนได้ พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย พูดภาษาเยอรมันได้ด้วยก็จะมีโอกาสมากในการทํางาน อันนั้นคือโอกาสยิ่งรู้ภาษามากก็ยิ่งจะทําให้มีโอกาสมากยิ่งขึ้นในทางสังคม และก็เป็นโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากด้วย เพราะในประเทศจีนถ้าไม่รู้ภาษาจีน ก็จะเรียนรู้เรื่องต่างๆ ของเมืองจีนได้ค่อนข้างจะน้อย อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องวัฒนธรรม เป็นเรื่องของภาษาและวัฒนธรรมในการจัดงานครั้งนี้ เรื่องวัฒนธรรมก็เช่นกัน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเป็นหัวใจสําคัญมากระหว่างประเทศต่างๆ ในโลกปัจจุบันนี้ เรามีการแลกเปลี่ยนวัฒธรรมกันในทางที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เข้าใจวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานวัฒนธรรมอย่างนี้ทําให้ความสัมพันธ์ของประเทศต่างๆของประชาชนของประเทศต่างๆ มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นกันมากขึ้น ไทยกับจีนมีความได้เปรียบอยู่แล้ว เพราะว่าวัฒนธรรมหลายอย่างของจีนในเมืองไทยก็มีเหมือนกัน เพราะว่าอย่างที่เรียนว่า ประวัติศาสตร์ของไทยกับจีนยาวนานมาก ภาษาไทย ขนบประเพณีไทยที่ปรากฏอยู่ที่ประเทศจีน เนื่องจากเชื้อสายเชื่อมโยงกันก็มีเยอะเหมือนกัน อย่างเช่นในมณฑลยูนนาน ที่จิ่งหอง เป็นต้น อย่างที่เมืองเต๋อหองพูดถึงเมื่อสักครู่ ปรากฏว่ามีคนที่เป็นเชื้อสายไทยอยู่ที่เต๋อหองก็เยอะ พูดภาษาเกือบเหมือนภาษาเชียงใหม่ คนที่อยู่ที่จิ่งหอง ก็พูดภาษาที่ฟังกันรู้เรื่องกับคนเชียงใหม่ เป็นคนเชื้อสายเดียวกัน คนเชียงใหม่ในอดีตเมื่อ 200 ปีก่อน อพยพมาจากสิบสองปันนาก็มี ก็ตั้งถิ่นฐานที่นี่ เป็นไทยลื้อเหมือนสิบสองปันนาก็เยอะที่นี่ ไทยใหญ่ที่มีถิ่นฐานอยู่สิงสองปันนานหรือแถวเต๋อหองก็มาอยู่ในเมืองไทย พูดภาษาเดียวกันเยอะมาก วัฒนธรรมก็เหมือนกัน แต่เนื้อแต่งตัวก็เหมือนกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความแน่นแฟ้นที่ดี แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ก็จะทําให้ความสัมพันธ์ประชาชนสองประเทศแน่นแฟ้นและใกล้ชิดกันมากขึ้น