China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-07-27 17:01:35    
ประชาชนชนชาติต่างๆ ในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียงอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์

cri

เขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียงตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีเนื้อที่เป็น 1 ใน 6 ของประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสภาวะการผลิตและคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น เสริมการพัฒนาสาธารณูปโภคให้มากขึ้น และปรับสภาวะแวดล้อมให้สวยขึ้น ทำให้ประชาชนชนชาติต่างๆ ในพื้นที่อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์

ในเมืองคูร์เล่อ เขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียง มีชาวชนชาติอุยกูร์ ชนชาติมองโกเลีย และชนชาติคาร์ซัก เป็นต้น รวม 23 ชนชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน ปัจจุบัน สภาวะแวดล้อมของเมืองนี้สวยงามมาก มีภูเขาเขียวขจี แม่น้ำใสสะอาด และดอกไม้เบ่งบานสวยงาม เนื่องจากเมืองนี้เป็นแหล่งผลิตสาลี่ที่มีชื่อ จึงยังได้รับการเรียกขานว่า "เมืองสาลี่" นายม่ายเหอผู่ อายุ 15 ปีเป็นนักเรียนชั้นมัธยมของเมืองนี้ เขาแนะนำบ้านเกิดของเขาด้วยความภูมิใจต่อผู้สื่อข่าวว่า เมืองนี้มีสภาวะแวดล้อมอันสวยงาม อากาศก็ดีมาก เขากล่าวว่า แม้ว่าเขาเรียนในโรงเรียนชนชาติอุยกูร์ แต่ก็มีเพื่อนชาวฮั่นจำนวนมาก ช่วงนอกเวลาเรียน เขาชอบเล่นกับเพื่อนชาวฮั่น เพราะมีความสนุกสนานมาก เขายังบอกผู้สื่อข่าวว่า

"ผมชอบไปเที่ยวสวนสาธารณะและเล่นเกมส์กับเพื่อนชาวฮั่น พ่อแม่ผมก็มีเพื่อนชาวฮั่นเช่นกัน เรากับชาวฮั่นมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ผมกับเพื่อนที่เป็นชาวฮั่นคนหนึ่งจะเปิดซูปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน เราสองคนได้ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว"

ในเมืองคูร์เล่อ ประชาชนชนชาติต่างๆ อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ พวกเขารักบ้านเกิดของตน และภูมิใจที่ได้เกิดเป็นชาวเมืองคูร์เล่อ แต่ เมื่อ30 ปีที่แล้ว เมืองคูร์เล่อเป็นพื้นที่รกร้างมาก เป็นเพราะว่า ที่นีห่างจากทะเลทราย "ทาเค่อลาหม่ากัน" ซึ่งเป็นทะเลทรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกเพียง 70 กิโลเมตรเท่านั้น สภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติจึงเลวร้ายมาก

เพื่อปรับสภาวะแวดล้อมของท้องถิ่นให้ดีขึ้น ปีหลังๆ นี้ เทศบาลเมืองคูร์เล่อจึงรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันปลูกต้นไม้ เพื่อให้กลายเป็นเมืองสีเขียว นอกจากนี้ ทางการเมืองคูร์เล่อยังได้นำเข้าเทคโนโลยีชักน้ำเข้าป่าแบบทันสมัยและประหยัดน้ำจากประเทศอิสราเอล เพื่อใช้ในการปลูกต้นไม้ จนถึงเวลานี้ ได้ปลุกต้นไม้บนภูเขารวม 4000 เฮกตาร์ ใช้งบประมาณไปถึง 108 ล้านหยวน

เมื่อเร็วๆ นี้ นาย อ้ายซานเจียง นายกเทศมนตรีเมืองคู่ร์เล่อให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ปีหลังๆ นี้ ทางการเมืองคูร์เล่อไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการปรับสภาวะแวดล้อมให้ดีขึ้นเท่านั้น หากยังได้ดำเนินกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ทำให้ชีวิตของชาวบ้านมีความหลากหลายยิ่งขึ้น ในกระบวนการพัฒนาเมืองแห่งนี้ ประชาชนชนชาติต่างๆ ได้ช่วยกันทำงาน พวกเขามีความสามัคคีกันและเป็นมิตรต่อกัน นาย อ้ายซันเจียง ยังกล่าวว่า

" ปัจจุบัน ภูเขารกร้างได้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวเกือบหมดแล้ว เขตเมืองได้รับการตกแต่งจนเสมือนเป็นสวนดอกไม้ พร้อมๆ กับสภาวะแวดล้อมของเมืองได้รับการปรับให้ดีขึ้น เศรษฐกิจของเมืองก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว เมื่อปี1979 ยอดมวลรวมการผลิตของเมืองนี้มีเพียงประมาณ 100 ล้านหยวนเท่านั้น รายได้สุทธิเฉลี่ยต่อคนของเกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์มีเพียง 75 หยวน แต่เมื่อมาถึงปี 2008 เวลาผ่านไปเพียง 30 ปีเท่านั้น ยอดมวลรวมการผลิตของเมืองนี้ได้เพิ่มขึ้นถึง 43,000 ล้านหยวน รายได้สุทธิเฉลี่ยต่อคนของเกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์สูง ถึง 6,660 หยวน ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อคนของชาวเมืองสูงถึง 11,500 หยวน"

หลังจากแนะนำเมืองคู่ร์เล่อไปแล้ว เรามารู้จักกับเมืองอีกแห่งหนึ่ง คือเมืองคาเสอของเขตปกครองตนเองซินเกียง เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ เป็นแหล่งผสมผสานทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจระหว่างตะวันตกกับตะวันออก แต่อย่างไรก็ตาม บ้านเรือนส่วนใหญ่ในเมืองนี้ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมานานแล้ว จึงชำรุดทรุดโทรมมาก เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน และอนุรักษ์โบราณสถานทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ทางการท้องถิ่นเริ่มดำเนินโครงการบูรณะซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านที่ชำรุดทรุดโทรมและสร้างบ้านพักใหม่ จนถึงขณะนี้ มี 580 ครอบครัวได้ย้ายเข้าบ้านพักใหม่ที่ทางการท้องถิ่นสร้างให้แล้ว

เด็กชาย มายรื่อม่ายถี อายุ 9 ขวบ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

"ครอบครัวเขาเพิ่งย้ายเข้าไปในบ้านพักใหม่ บ้านเก่าแคบมาก ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ต้องเดินทางไกลเพื่อเข้าห้องน้ำสาธารณะ แต่บ้านใหม่นี้ใหญ่และสว่างมาก เรารู้สึกมีความสุขจริงๆ "

(cai)