"จีนกำลังลดช่องว่างด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับประเทศพัฒนาให้น้อยลงอีก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีบางอย่างของจีนก็ได้ขึ้นไปสู่แนวหน้าของโลกแล้ว และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกมากยิ่งขึ้น นับเป็นการสนับสนุนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัยของประเทศอย่างเข้มแข็ง"

ปัจจุบัน จีนเข้าสู่ช่วงที่มีผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น โดยปรากฎผลงานด้านนี้กว่า 20000 รายการในทุกปี ทั้งในด้านพลังงาน เกษตรกรรม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

พร้อมๆกับการพัฒนาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การคมนาคมก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เมื่อ 30 ปีก่อน ความเร็วเฉลี่ยของรถไฟจีนแค่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น จากกรุงปักกิ่งไปนครเซี่ยงไฮ้ต้องใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 20 ชั่วโมง แต่ขณะนี้ ทางรถไฟ ทางหลวง และสายการบินมีทั่วถึงทุกสถานที่ นั่งเครื่องบินจากกรุงปักกิ่งถึงนครเซี่ยงไฮ้จะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมง

ส่วนการพัฒนาของเครือข่ายเทคโนโลยีการสื่อสารทำให้ผู้คนสามารถได้รับข่าวสารทุกด้านโดยไม่ต้องเดินออกจากบ้าน สถิติล่าสุดปรากฎว่า ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตมีกว่า 330 ล้านคนแล้ว

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เทคโนโลยีเครือข่ายการสื่อสารได้รับการประยุกต์ใช้ในงานบริการสาธารณประโยชน์ของรัฐบาลด้วย ปัจจุบัน ชนบททั่วประเทศกว่า 80% เปิดการเรียนการสอนทางไกล ด้วยคอมพิวเตอร์และเครือข่ายโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ทำให้เด็กในชนบทสามารถได้รับการศึกษาจากครูที่มีชื่อเสียงในเมือง

ปีที่แล้ว จีนจัดงานกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง งานนี้ล้วนใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งสิ้น ทั้งในด้านการก่อสร้าง การจราจร การโทรคมนาคม อาหารการกิน และการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น พิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่หลายสิบประการนั้น จนได้รับการชื่นชมจากทั่วโลกอย่างกว้างขวาง นายเมหะเหม็ดต อาลี ซาฮิน อดีตรัฐมนตรีที่รับผิดชอบการกีฬาของตุรกีกล่าวว่า

"ผมเคยเข้าร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิกหลายครั้ง แต่ผมเห็นว่า พิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งยอดเยี่ยมมากที่สุด และเป็นพิธีเปิดที่ใช้นิวไฮเทคได้อย่างดีที่สุด"