เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกที่จีนเจรจากับต่างประเทศ และก็เป็นเขตการค้าเสรีที่อาเซียนเจรจากับต่างประเทศ สองฝ่ายเริ่มเปิดการเจรจาตั้งแต่ปี 2002 ได้รับความสนใจอย่างมากจากฝ่ายต่างๆ หลังจากที่สองฝ่ายได้ลงนามใน "ข้อตกลงการค้า" และ "ข้อตกลงด้านบริการ"ของเขตการค้าเสรีเมื่อปี 2004 และปี 2007 ตามลำดับ "ข้อตกลงการลงทุน"ที่ได้ลงนามครั้งนี้เดิมกำหนดที่จะลงนามในที่ประชุมผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาที่จัดขึ้นที่พัทยาเมื่อเมษายนที่ผ่านมานี้ แต่เนื่องจากการประชุมถูกยกเลิกไป จึงได้เลื่อนเวลามาถึงตอนนี้

ปีหลังๆนี้ คู่ขนานไปกับการเร่งฝีก้าวการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน จีนกับอาเซียนได้ขยายการลงทุนซึ่งกันและกันให้มากขึ้น จนถึงปลายปี 2008 ประเทศอาเซียนได้ลงทุน 52,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในจีน เป็น 6% ของทุนต่างชาติในจีน ขณะเดียวกัน จีนก็พยายามดำเนินยุทธศาสตร์ "เดินออกไป" และได้เกิดแนวโน้มการเติบโตด้านการลงทุนต่ออาเซียนอย่างรวดเร็ว ปี 2008 ยอดการลงทุนโดยตรงที่จีนมีต่ออาเซียนมีถึง 2,180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 125% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกัน วิสาหกิจจีนมากยิ่งขึ้นได้เลือกประเทศอาเซียนเป็นประเทศเป้าหมายในการลงทุน

เมื่อกล่าวถึงความหมายของการที่เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนใกล้จะสร้างเสร็จ นายเฉิน เต๋อหมิง รัฐมนตรีพาณิชย์จีนกล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า

"ในทุกวันนี้ที่เผชิญกับวิกฤติการเงินโลก ในทุกวันนี้ที่จีนและอาเซียนต่าง่ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงจากวิกฤติการเงินของประเทศตะวันตก การที่เขตการค้าเสรีใกล้สร้างเสร็จนั้นมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนมีผลบังคับใช้อย่างทั่วด้านในวันที่ 1 มกราคมของปีหน้า ชีวิตของประชาชนจีนและประชาชนอาเซียนต่างก็จะได้รับผลประโยชน์และความสะดวกมากยิ่งขึ้น ตลาดจะเต็มไปด้วยสินค้าทั้งถูกและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น สินค้าของอาเซียนจำนวนมากจะเข้าสู่ตลาดจีน ส่วนสินค้าดีๆของจีนก็จะออกไปสู่ตลาดอาเซียนด้วย เราทั้งสองฝ่ายจะมีศักยภาพด้านตลาดที่ใหญ่หลวงมาก"

ความจริง ปัจจุับัน จีนก็กำลังดำเนินการเจรจาในการสร้างเขตการค้าเสรีกับออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นต้นในระดับต่างๆ ส่วนอาเซียนก็พยายามผลักดันการเจรจา 10+1 กับประเทศคู่เจรจา เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นต้น และหวังว่าจะสร้างเขตการค้าเสรีในเอเซียตะวันออกที่ถืออาเซียนเป็นใจกลาง นางแมรี เอลคา พันเกสตู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซียกล่าวว่า

"อาเซียนให้ความสนใจในกระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีอย่างมาก ตอนแรก การผลักดันการเจรจาเขตการค้าเสรี 10+1 ของเราก็ถืออาเซียนเป็นใจกลาง เราได้ดำเนินกระบวนการสร้างเขตการค้าเสรีกับประเทศคู่เจรจา ขั้นตอนต่อไป เราก็จะรวมเขตการค้าเสรีเหล่านี้อยู่ด้วยกัน ทำให้กลายเป็นเขตการค้าเสรีเอเซียตะวันออกหรือเขตการค้าเสรี 10+3"