China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-09-04 18:00:32    
การสัมภาษณ์นายจาง จิ่วหวน อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย (1)
รายการจับมืออาเซียน

cri

ผู้สื่อข่าว: ท่านทูตนับเป็นพยานแห่งไมตรีจิตรมิตรภาพของจีนและไทย ในช่วงหลายปีที่ท่านทำงานในประเทศไทย คงมีเรื่องราวและประสบการณ์มากมายที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่างจีนกับไทย ขอให้ท่านเล่าเรื่องการไปมาหาสู่กันทั้งระดับรัฐบาลและระดับประชาชนที่ประทับใจท่านลึกซึ้งที่สุดสู่คุณผู้ฟังชาวไทยทั้งหลายครับ

จาง จิ่วหวน: มีเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆมากมายที่ประทับใจผมอย่างลึกซึ้งใน(ประวัติ)การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยในช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมา ณ ที่นี่ ผมอยากจะพูดถึงการเยือนประเทศไทยของท่านเติ้ง เสี่ยวผิง วันที่ 15 พฤศจิกายนปี 1978 หลังจากที่เสร็จสิ้นการเยือนพม่า เครื่องบินพิเศษของท่านก็มาลงจอดที่สนามบินดอนเมืองของกรุงเทพฯ ท่านเริ่มเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะรองนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลและประชาชนไทยเคารพนับถือท่าน และตระหนักว่า บทบาทของท่านสำคัญถึงขนาดไหนในประเทศจีน จึงให้การต้อนรับท่านอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ คล้ายๆกับประมุขของประเทศ (สมัยนั้น)ประชาชนชาวไทยมีความกระตือรือร้นมากในการต้อนรับท่านเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้คนนับหมื่นนับแสนคนออกจากบ้านมายืนเรียงแถวตามถนนที่ขบวนรถของท่านจะผ่าน ทุกคนอยากจะเห็นหน้าท่าน และท่านเติ้ง เสี่ยวผิงก็ใช้โอกาสนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มาเยือนประเทศไทย ได้พบปะสังสรรค์ สัมผัสกับประชาชนชาวไทยในทุกวงการ ไม่เฉพาะข้าราชการเท่านั้น แต่รวมถึงกรรมกร ชาวไร่ชาวนา นักวิชาการ อาจารย์ นักเรียนนักศึกษา และชาวบ้านทั่วไป แน่นอนท่านได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีการเจรจาและประชุมกับนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภาและผู้นำอื่นๆของประเทศไทย การเยือนครั้งนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้มีความเข้าใจที่กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ภายหลังจีนกับไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1975 ต่อมาก็เกิดรัฐประหารในประเทศไทย ซึ่งกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์จีน-ไทยไประยะหนึ่ง เพราะฉะนั้น การที่ท่านเติ้ง เสี่ยวผิงมาเยือนประเทศไทยในปี 1978 คือหลังจากสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตมาแล้ว 3 ปี และหลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยให้สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ต่อจากนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทยก็ได้พัฒนาไปค่อนข้างรวดเร็ว กล่าวได้ว่าเข้าสู่ยุคใหม่อีกยุคหนึ่ง

ผมอยากจะพูดถึงอีกเรื่องหนึ่ง คือวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 ได้เกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นที่จับตามองกันทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงมากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา แถวจังหวัดพังงา และภูเก็ตของประเทศไทยได้รับความเสียหายอย่างหนัก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต มากกว่า 5,000 คน ในนั้นเป็นชาวต่างชาติส่วนหนึ่งที่มาท่องเที่ยวและพักผ่อน อีกส่วนหนึ่งเป็นคนไทยเอง หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลจีนและประชาชนจีนถือว่าเป็นความเสียหายของตนเอง และรับให้ความช่วยเหลือทันที รวมทั้งบริจาคเงิน วัตถุปกรณ์ สิ่งของและช่วยเหลือทางกำลังคน รวมแล้วคิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,700,000 กว่าดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนในนั้นมีทั้ืงที่รัฐบาลและประชาชนบริจาค และขณะเดียวกัน คณะแพทย์ คณะเจ้าหน้าที่กู้ภัยและคณะนักวิทยาศาสตร์ที่มาทำการตรวจสอบ DNA ล้วนเป็นอาสาสมัคร ที่เดินทางมาเข้าร่วมการกู้ภัย พวกเขาทำงานด้วยความตั้งใจจริง ได้รับการชื่นชมไม่เฉพาะจากรัฐบาลและประชาชนไทยเท่านั้น และจากประเทศอื่นๆที่จัดส่งคณะกู้ภัยมาร่วมทำงานในเวลานั้นด้วย ประชาชนของจีนและไทยต่างกล่าวจนติดปากว่า เมื่อไรที่ประเทศไทยมีความยากลำบาก จีนก็จะช่วย เมื่อไรจีนมีความยากลำบาก ไทยก็จะช่วย เพราะฉะนั้น เหตุการณ์สึนามิครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อไทยเกิดความเสียหายแล้ว จีนก็จะอำนวยความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ผมอยากจะพูดถึงสองเรื่องนี้ก่อน เรื่องราวต่างๆที่ประทับใจและสมควรที่จะจดจำไว้นั้นยังมีอีกมาก

1 2 3