"ท่านรักคนเก่ง และเพื่อป้องกันการสมองไหล วันเสาร์และอาทิตย์ตลอดจนเทศกาลต่างๆ อาจารย์หานไม่เคยหยุดพักเลย ทั้งติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาลและภาคเอกชนเพื่อของบประมาณมากขึ้นใช้ในการปรับปรุงเงื่อนไขการเรียนการสอนและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ"
อาจารย์หานไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของอาจารย์หนุ่มสาว ยังเอาใจใส่นักศึกษาทุกคน โดยเฉพาะนักศึกษายากจน นายถาง ปีนกับถาง หมิ่นเป็นพี่น้องจากครอบครัวยากจน ปัจจุบัน เป็นนักศึกษาคณะดนตรีประเภทเครื่องเป่าและเครื่องสาย เมื่อก่อน เนื่องจากทางบ้านยากจน สองพี่น้องต้องไปสีซออู้ตามท้องถนน อาจารย์หานฟังแล้วเห็นว่าสองพี่น้องนี้มีพรสวรรค์ จึงให้เงินช่วยเหลือ และระดมเพื่อนอาจารย์มาติวให้ฟรี ทำให้สองพี่น้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ น้องชายถางปีนเล่าว่า
"อาจารย์หานช่วยเหลือเราสองคนมากว่า 10 ปีแล้ว ช่วงนั้น เรายังอายุน้อย อาจารย์หานเชิญเราไปทานข้าวที่บ้าน และสั่งสอนเราว่าต้องตั้งใจสลัดให้พ้นจากความยากจนโดยอาศัยลำแข้งของตนเอง ต่อมาเราสองคนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยฝึกหัดครูได้ด้วยกัน"
ถางปีนใกล้จะสำเร็จการศึกษาแล้ว เขาบอกว่า อาจารย์หานเป็นผู้ที่เปลี่ยนชะตาชีวิตพี่น้องทั้งสอง และทำให้ชีวิตครอบครัวพวกเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"พ่อและแม่ต่างก็รู้สึกเป็นหนี้บุณคุณอาจารย์หาน มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณพ่อซื้อปลาตัวใหญ่เพื่อเอาไปฝากอาจารย์ที่บ้าน แต่อาจารย์หานบอกว่า อย่าซื้ออะไรมาให้ผม ขอให้ลูกของคุณมีอนาคตที่ดีก็พอแล้วเท่านี้ก็เป็นการขอบคุณมากที่สุดสำหรับผม"
เหลียง เยี่ยนเหลยไปทานข้าวที่บ้านอาจารย์บ่อยครั้ง เธอกล่าวว่า แม้ว่าอาจารย์หานจะเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และผลงานของท่านเคยได้รับรางวัลระดับชาติ 48 ชิ้น ระดับมณฑล 108 ชิ้น แต่ท่านไม่เคยถือตัว ไม่ทะนงตน กลับมุ่งมั่นกับงานการสอนจนกระทั่งไม่มีเวลาทานอาหารเที่ยงบ่อยครั้ง
"ตอนเที่ยงขณะที่เรากำลังทานข้าวกันอยู่ อาจารย์มักจะโทรมาบ่อยครั้ง ขอให้เราช่วยซื้อข้าวให้ด้วย บอกว่า พวกคุณกินอะไรก็ซื้อมาอย่างนั้น เรารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของท่าน เพราะว่า เรารู้สึกว่าท่านเหมือนเป็นคุณปู่ของพวกเรา" 1 2
|