หนังสือพิมพ์ Straits Times ของสิงคโปร์ รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ว่ากรณีพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนช่วยเปิดหน้าต่างใหม่แห่งโอกาสให้กับประเทศอินเดีย เป็นเหตุให้ยอดส่งออกไปยังจีนเพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่ยอดขาดดุลการค้าอย่างมหาศาลของอินเดียต่อคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดนี้ลดลง จากแถลงการณ์ที่กระทรวงพาณิชย์ของอินเดียประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่าในปีงบประมาณ 2018-2019 การส่งออกสินค้าอินเดียไปยังจีน “จะบรรลุจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์”
รายงานกล่าวว่าเดือนเม.ย.-ธ.ค. ปีที่แล้ว อินเดียมียอดส่งออกไปยังจีนถึง 12,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 406,000 ล้านบาท) ใกล้เคียงกับปีงบประมาณก่อนหน้านั้นตลอดทั้งปีที่ 13,330 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 426,500 ล้านบาท) อินเดียมียอดนำเข้าจากจีนในปีงบประมาณ 2017-2018 ถึง 76,380 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,444,000 ล้านบาท) ทำให้มียอดขาดดุลการค้ากับประเทศนี้ถึง 63,050 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,017,000 ล้านบาท) แต่เนื่องจากในช่วงปีงบประมาณดังกล่าว เดือนเม.ย.-ธ.ค. ปีที่แล้ว อินเดียมียอดนำเข้า 53,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,724,000 ล้านบาท) ทำให้ยอดขาดดุลการค้าลดลงเหลือเพียงกว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,280,000 ล้านบาท)
กระทรวงพาณิชย์อินเดียรายงานว่ายอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากนโยบายปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ประกอบกับการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในประเทศจีน ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นของอินเดียมาจากสินค้าหลักๆ คือ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล สารประกอบอินทรีย์ พลาสติก ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม องุ่นและข้าว