ปีนี้ จีนจะกำหนดแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอน เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนให้ถึงจุดสูงสุดก่อนค.ศ.2030 และการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ก่อนค.ศ.2060 ซึ่งการที่จีนบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ จะมีความหมายอย่างไรต่อโลกบ้าง มีภาพแสดงผลดังนี้
การปล่อยคาร์บอนถึงจุดสูงสุด กับปล่อยเป็นศูนย์คือ?
การปล่อยคาร์บอนถึงจุดสูงสุด คือ เมื่อปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึงจุดสูงสุดแล้ว หลังจากนั้นก็จะลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง
การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ คือ ใช้วิธีการปลูกต้นไม้สร้างป่า ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอนเป็นต้น ให้ชดเชยกับปริมาณที่ปล่อยออก เพื่อบรรลุการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นศูนย์
เป้าหมาย “30 , 60” ของจีน
คือ การปล่อยคาร์บอนให้ถึงจุดสูงสุดก่อนค.ศ.2030 และการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ก่อนค.ศ.2060
ผ่าน 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่1(ค.ศ.2021-2030) บรรลุการปล่อยคาร์บอนถึงจุดสูงสุด
ขั้นที่2(ค.ศ.2031-2045) เร่งลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง
ขั้นที่3(ค.ศ.2046-2060)หลุดพ้นการปล่อยคาร์บอนในระดับลึก เพื่อบรรลุการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์
คุณูปการจีนต่อโลกในการปล่อยคาร์บอนถึงจุดสูงสุด และเป็นศูนย์
↓0.2-0.3 องศาเซลเซียส
ถึง ค.ศ.2100 อุณหภูมิโลกจะเพิ่มต่ำลง 0.2-0.3 องศาเซลเซียส
↓65%
ถึง ค.ศ.2030 การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วย GDP จะลดลง 65% ขึ้นไปเมื่อเทียบกับปี 2005
↑6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ถึง ค.ศ.2030 ปริมาณพื้นที่ป่าไม้สะสมเพิ่ม 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเมื่อเทียบกับปี 2005
โอกาสที่ทั่วโลกจะได้จากการปล่อยคาร์บอนถึงจุดสูงสุดและเป็นศูนย์ของจีน
ด้านพลังงานสะอาด
จีนจะพัฒนาการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมและแสงอาทิตย์อย่างขนานใหญ่ ซึ่งจะนำมาซึ่งใบสั่งซื้อจำนวนมากแก่ธุรกิจพลังงานสะอาดทั่วโลก
ด้านรถพลังงานไฟฟ้า
พร้อมกับการใช้งานรถพลังไฟฟ้าทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิม จีนจะกลายเป็นตลาดใหญ่สำหรับธุรกิจผลิตรถพลังงานไฟฟ้านานาชาติ
การเงินสีเขียว
จีนจะทุ่มงบ 100 ล้านล้านหยวนเพื่อพัฒนาการผลิตแบบสีเขียวและปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะเป็นโอกาสอันใหญ่หลวงต่อการเงินสีเขียวของโลก
(Yim/Zhou/Hanchu)