เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2016 ขณะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีและเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหมู่บ้านเสินซานในเมืองจิ่งกังซาน มณฑลเจียงซีนั้น เขาได้เดินเข้าไปในบ้านของนายจั่ว ซิ่วฟา ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์จั่ว ซิ่วฟาอีกครั้ง
จั่ว ซิ่วฟาเล่าย้อนหลังให้ฟังว่า วันนั้นพอดีเป็น “เสี่ยวเหนียน(วันตรุษจีนเล็กตามปฏิทินจันทรคติ)” ในภาคใต้ของจีน หลังฝนและหิมะตกเป็นเวลาหลายวัน หมู่บ้านเสินซานซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาจิ่งกังซานนั้นหนาวมาก ถนนทางเข้าหมู่บ้านทั้งเปียกและลื่น ยามเช้าตรู่ จั่ว ซิ่วฟาได้จุดไฟเผาเตาอั้งโล่ในห้องนั่งเล่นให้ร้อน และนึ่งข้าวเหนียวด้วยหวดไม้ เพื่อเตรียมตำขนมข้าวเหนียวสำหรับผลิตขนมที่เรียกกันว่า “ฉือปา”
ในช่วงเช้าบริเวณทางเข้าหมู่บ้านเริ่มคึกคัก เมื่อได้ยินว่าท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงกำลังมา จั่ว ซิ่วฟาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นเรื่องจริง “จากเชิงเขาถึงหมู่บ้านเสินซานเป็นถนนบนภูเขาเกือบ 50 กิโลเมตร ผู้นำสำคัญระดับเช่นนี้จะมาที่ 'หุบเขายากจน' นี้ทำไมเหรอ " หลังจากได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นเรื่องจริง จั่วซิ่วฟาอดที่จะพึมพำไม่ได้ว่า "หมู่บ้านเสินซานโชคดีจริงๆ ตลอดชีวิตนี้ผมยังไม่เคยออกจากภูเขามาก่อนเลย นึกไม่ถึงเลยว่าท่านเลขาธิการใหญ่จะมาเยี่ยมเราด้วยตัวเอง"
ในลานซึ่งอยู่หน้าบ้านของจั่ว ซิ่วฟา สี จิ้นผิงเห็นชาวบ้านกําลังตำ“ฉือปา” จึงเข้ามาขอมีส่วนร่วมด้วยความสนใจ
เสร็จจากตำ“ฉือปา” สี จิ้นผิงเดินเข้าไปในบ้านของจั่ว ซิ่วฟา ได้เยี่ยมชมงานไม้ไผ่แกะสลักภายในบ้าน ทั้งยังกล่าวชื่นชมครอบครัวจั่ว ซิ่วฟาที่พึ่งพาทรัพยากรในท้องถิ่น สามารถเพิ่มรายได้และหลุดพ้นความยากจนได้ผ่านการแปรรูปไม้ไผ่ สี จิ้นผิงขอให้งานไม้ไผ่แกะสลักที่พวกเขาผลิตขายดิบขายดี
ข่าวการมาเยือนหมู่บ้านของสี จิ้นผิงได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บรรดาชาวบ้านรวมตัวกันที่ทางเข้าหมู่บ้านและทักทายสวัสดีท่านเลขาธิการใหญ่พร้อมกัน สี จิ้นผิงได้จับมือกับชาวบ้านทั้งหลายพร้อมกล่าวคำอวยพรปีใหม่ เขาบอกกับชาวบ้านว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคที่รับใช้ประชาชนด้วยความบริสุทธ์ใจและความตั้งใจเต็มร้อย จะทุ่มเทสนับสนุนการพัฒนาของพื้นที่เก่าแห่งการปฏิวัตินี้ต่อไปเพื่อให้บรรดาชาวบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
จั่ว ซิ่วฟาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ปีนี้เขาอายุ 71 ปีแล้ว 6 ปีได้ผ่านไปในพริบตา แต่ฉากในขณะนั้นยังคงเหมือนอยู่ตรงหน้าเขา
เขากล่าวว่าการมาถึงของสี จิ้นผิงทำให้ทุกคนมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาล ชาวบ้านในหมู่บ้านเสินซานก็ไม่ยอมแพ้ใคร พวกเขาได้พัฒนาฐานปลูกลูกพีชสีเหลืองและใบชา ได้สร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานจอดรถ และห้องน้ำสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยว ถนนที่เป็นทางเข้าภูเขาซึ่งเดิมมีสภาพแคบๆได้ขยายกว้างถึง 5 เมตร เมื่อไม่กี่ปีก่อนที่นั่นไม่มีใครอยากไปเลยนอกจากรถบรรทุกไม้ไผ่ ในพริบตาเดียวเองแต่ละวันจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่าชาวบ้านเสียอีก
ในปีที่สองหลังจากท่านเลขาธิการใหญ่ไปถึง ไม่เพียงแต่หมู่บ้านนี้เท่านั้น ทั่วทั้งพื้นที่บริเวณภูเขาจิ่งกังซานล้วนได้หลุดพ้นจากความยากจน นับวันมีจำนวนคนมากขึ้นที่มีรถยนต์จอดอยู่หน้าบ้านของพวกเขา ครอบครัวของจั่ว ซิ่วฟาก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากเช่นกัน บ้านก็ได้รับดัดแปลงใหม่ เมื่อก่อนมืดมาก แต่ตอนนี้สว่างแล้ว ภายในบ้านมีห้องน้ำแล้วด้วย
นอกจากนั้นหมู่บ้านนี้ยังมีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จั่ว ซิ่วฟาจึงได้โทรศัพท์ติดต่อกับลูกชายของเขาที่ทำงานอยู่ข้างนอก ขอให้เขากลับไปพัฒนาธุรกิจที่หมู่บ้าน ทุกวันนี้ ลูกชายของจั่ว ซิ่วฟาสามารถทำรายได้มากกว่า 100,000 หยวนต่อปีจากการดูแลธุรกิจฉือปาของครอบครัว และทำหัตถกรรมจากไม้ไผ่และไม้ ซึ่งดีกว่าไปทำงานที่ข้างนอก
จั่ว ซิ่วฟากล่าวทิ้งทายว่า "ผมอยากจะนำความเปลี่ยนแปลงในหลายปีที่ผ่านมาไปบอกท่านเลขาธิการใหญ่ ปัจจุบันนี้ขนมฉือปายิ่งตำยิ่งเหนียว ชีวิตก็นับวันหอมหวานยิ่งขึ้น หุบเขาที่ยากจนซึ่งเมื่อก่อนแม้พระเจ้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั้น บัดนี้ได้มีชีวิตที่เป็นสุขแล้ว”
YIM/LU