ฤดูใบไม้ร่วงของปักกิ่งกำลังจะสิ้นสุดลง ฤดูหนาวกำลังจะใกล้เข้ามา อากาศตอนนี้เย็นสบายกำลังดี ตอนกลางวันมีแสงแดดส่องพอให้อุ่นๆ ฟ้าสีสดใสเหมาะกับการเดินเล่นตามสถานที่กลางแจ้งเป็นยิ่งนัก โดยเฉพาะสัปดาห์นี้ได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่แหล่งรวมงานศิลปะสมัยใหม่ของจีน ยังเป็นศูนย์รวมของแกลอรี่งานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดในปักกิ่ง และแถบเอเชียช่วงนี้ ถือว่า ได้รับความสนใจและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในแวดวงศิลปะทั่วโลก
รูปที่ 1
การเดินทางไปที่ 798 หรือชีจิ่วปา นั้นต้องนั่งรถใต้ดินไปลงที่สถานีกั๋วเม่า ต่ออีกสายไปลงสถานีเหลี่ยงมาเฉียว เดินออกประตูบี และต่อรถเมล์สาย 668 ไปอีกประมาณสิบห้านาที ก็จะถึงสถานที่ดังกล่าว แต่เดิมสถานที่นี้เป็นย่านโรงงานเก่า และได้ย้ายโรงงานออกไปตามชานเมือง เหลือแต่สภาพตัวตึกโรงงานไว้ ทางการเห็นว่า เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจและนำมาใช้ประโยชน์ได้ ประกอบกับกำลังหาพื้นที่ให้ชุมชนศิลปินจีนที่กระจุกตัวตามชานเมือง มารวมกันไว้ในที่เดียว ง่ายต่อการดูแลและสร้างคุณค่าในเชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย ศิลปินจีนและเจ้าของแกลอรี่ต่างเข้ามาจับจองอาคารร้าง ตกแต่งเพิ่มเติมปรับปรุงนิดหน่อยแต่ยังคงสภาพตึกแบบเดิมไว้
รูปที่ 2
บริเวณภายใน 798 เริ่มคึกคักและมีบรรยากาศสนุกสนานโดยเฉพาะวันหยุด เหล่าบรรดาคนหนุ่มสาวทั้งจีนและต่างประเทศต่างมาเดินดูงานศิลปะที่มีมากมาย อีกทั้งยังมีร้านขายสินค้าประเภทแฮนด์เมด วาดรูปเหมือนเรียงรายตามทางเดิน ร้านกาแฟเก๋ๆ ร้านอาหารตกแต่งทันสมัยมีสไตล์ แกลอรี่น้อยใหญ่จัดแสดงผลงานของศิลปินชาวจีนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า เรียกเงินในกระเป๋าของเศรษฐีใหม่ชาวจีนได้อย่างมากมาย ในปัจจุบัน การซื้องานศิลปะเพื่อสะสมนั้นเป็นที่นิยมมากในหมู่เศรษฐีชาวจีน พวกเขาเชื่อว่า ยิ่งนานวัน งานพวกนี้ยิ่งมีมูลค่าและคุณค่าสูงเช่นกัน
รูปที่ 3
เนื่องจากเป็นโครงการที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ค่าเช่าพื้นที่ในนี้ไม่สูงมากนัก หากเทียบกับพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่นๆ ในปักกิ่ง เพราะพื้นที่ในการใช้ทำแกลอรี่นั้นค่อนข้างใช้พื้นที่กว้างใหญ่หากค่าเช่าสูง นักลงทุนที่ไหนจะกล้ามาลงทุน ถือว่าเป็นการดึงดูดให้คนรุ่นใหม่และศิลปินรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมและสร้าง 798 ไปพร้อมๆ กันด้วย
รูปที่ 4
งานศิลปะนั้นเป็นตัวชี้วัดถึงความมีอารยะและรื่นรมย์ของประเทศนั้นๆ งานศิลปะมักสะท้อนถึงความรู้สึกและคำพูดของคนในประเทศ ดูเหมือนจะไม่มีพลังแต่มีพลังมาก สามารถพลิกชาติพลิกแผ่นดินได้จากภาพไม่กี่ภาพ จากความรู้สึกของคน อีกทั้งยังสะท้อนทัศนคติของรัฐบาลว่า เห็นคุณค่าและประโยชน์ของศิลปะมากน้อยแค่ไหน งานศิลปะขับเคลื่อนให้คนในชาติเกิดความสุนทรียะและความศิวิไลซ์ ในเวลาเดียวกันหากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่แล้ว ก็สามารถสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ที่สูงมากได้เช่นกัน
รูปที่ 5
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์