ขณะนี้ ประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศของเอเชีย เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนามและอินโดนีเซียกำลังเผชิญกับปัญหาที่สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานล้าหลัง ตามคาดการณ์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ภายใน 10 ปีข้างหน้า การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานให้ถึงระดับโลกของเอเชียต้องการเงินทุน 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งระดับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานนี้ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ยับยั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย
สายการบินเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก (JetStar Pacific Airlines)ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำแห่งแรกและแห่งเดียวของเวียดนาม แม้ได้ดึงดูดผู้โดยสารจำนวนมาก แต่เนื่องจากมีสายการบินจำนวนเพิ่มมากขึ้นและกำลังขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สนามบินของกรุงฮานอยและเมืองโฮจิมินห์ไม่สามารถรองรับได้พอ สนามบินนินอย อาคีโน่ ในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ไม่เพียงแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เก่าแก่เท่านั้น หากยังไม่มีรถรับส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสาร 3 แห่งด้วย ผู้โดยสารต้องเรียกแท็กซี่ไปเอง ส่วนกัมพูชาและอินโดนีเซียก็มีเครือข่ายการขนส่งที่ไม่เพียงพอ เช่นที่ประเทศอินโดนีเซีย ไม่ว่าทางหลวง ท่าเรือและอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าล้วนไม่สามารถตามทันการเติบโตทางเศรษฐกิจได้
ต่อปัญหาดังกล่าวนี้ นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียระบุในที่ประชุมประจำปีว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ ของเอเชียควรบรรลุการเติบโตภายในภูมิภาคด้วยนโยบายว่าด้วยการลงทุนด้านการศึกษา และการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานก่อน
ขณะนี้มีหลายประเทศได้ใช้ปฎิบัติการเพิ่มการลงทุนในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมากขึ้นบ้างแล้ว ต่อกรณีประเทศต่างๆ ขาดเงินทุนนั้น ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียประกาศเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมนี้ว่า จะเริ่มก่อตั้งกองทุนพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น ทางหลวง ทางรถไฟ พลังงานไฟฟ้า และทรัพยากรน้ำ