ตอบคำถามของคุณวรงค์ แสงวัชรพันธ์
เมื่อเร็วๆนี้ คุณวรงค์ แสงวัชรพันธ์ แฟนซีอาร์ไอจากจังหวัดร้อยเอ็ดเขียนอีเมล์มาถามว่า ที่ประเทศจีนมีการขับรถชิดซ้ายหรือขวา ในอนาคตจีนและอาเซียน จะเปิดเส้นทางคมนาคมไปมาหาสู่กันมากขึ้น ดังนั้นกฎจราจรและข้อบังคับที่เป็นสากลเป็นสิ่งสำคัญที่ควรรับรู้ร่วมกันอย่างมาก
คำถามของคุณวรงค์ดีมากทีเดียว ดิฉันก็สนใจเรื่องนี้ แรกเริ่มที่มาจีนใหม่ๆ รู้สึกไม่ชินเลย เพราะคนจีนขับรถชิดขวา และประตูรถก็ตรงกันข้ามกับไทย มักจะขึ้นรถผิดทาง วันนี้ เราสองคนมาคุยเรื่องการขับรถและกฎจราจรของจีน เพื่อเพิ่มความรู้ให้ท่านผู้ฟังและตัวดิฉันเองด้วย
เริ่มจากการสอบใบขับขี่นะคะ กฎหมายจราจรของจีนกำหนดว่า ผู้มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ สามารถไปสอบใบขับขี่ได้ คุณสมบัติของผู้ที่จะทำใบขับขี่ ได้แก่ มีความรู้และความสามารถในการขับรถ มีความรู้ในข้อบังคับการเดินรถตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้ ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างการถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
คล้ายๆกับไทยค่ะ แต่ของไทยอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ก็สามารถไปสอบใบขับขี่รถยนต์ได้แล้ว
การเรียนขับรถและการอบรมเกี่ยวกับกฎจราจรเบื้องต้นในจีนจะเข้มงวดมากกว่าไทย ขั้นตอนแรกต้องใบรับรองแพทย์และบัตรประชาชนตัวจริงเข้ารับการอบรมกฎจราจร 3 วันเต็มๆก่อนแล้วก็จะเข้าร่วมการสอบทฤษฎีเกี่ยวกับกฎจราจรเบื้องต้น แต่ก่อน เป็นข้อเขียนที่ขีดผิดถูก 100 ข้อ แต่ปัจจุบัน สอบทางคอมพิวเตอร์ระบบทันสมัย
มีข้อสอบ 100 ข้อเหมือนกัน และต้องถูกต้อง 90 ข้อขึ้นไป มิฉะนั้นก็จะไม่ผ่าน ต้องสอบใหม่
พอดีมีเพื่อนเพิ่งสอบใบขับขี่มา ครั้งแรกเขาเตรียมไม่พร้อมได้ 89 คะแนน ไม่ให้ผ่าน จึงต้องสอบครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกเขาเตรียมตัวอ่านตัวอย่างข้อสอบ 1,300 ข้อ อ่านไปสองสามรอบ รู้สึกว่า ไม่ยาก แต่ครั้งที่ 2 เขาตั้งใจและเตรียมพร้อมมากขึ้น อ่านทวนหลายรอบ ไม่กล้าประมาทเลยสอบได้ถึง 99 คะแนน
ขั้นตอนที่ 2 ต้องไปเข้ารับการอบรมที่โรงเรียนสอนขับรถ ส่วนใหญ่โรงเรียนอยู่ในชาญเมือง ไกลจากตัวเมือง แต่มีรถรับส่งตามเส้นทางที่กำหนด
เรียนขับรถในโรงเรียน อาจารย์จะสอนคนต่อคนใช่ไหมคะ แล้วเป็นการสอนในสนามหรือตามท้องถนนคะ
แต่ก่อน ไม่มีสอนคนต่อคน ต้องเรียนแบบเป็นกลุ่ม สมมติว่า เรียนขับรถบรรทุก ต้อง 6-8 คน เรียนด้วยกัน แล้วผลัดเปลี่ยนไปฝึกขับจริงคนอื่นนั่งฟังดูเป็นเพื่อน มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า เนื่องจากมีเวลาลองขับจริงน้อยมาก หลังจากกลับจากโรงเรียน ยังต้องเอาไม้กวาดและกะละมังหรือเครื่องมืออะไรมานั่งทบทวน
เพราะเรียนขับรถบรรทุกราคาถูก ถูกกว่าหลายร้อยหยวน จึงมีคนจำนวนมากไปเรียนขับรถบรรทุก และใบขับขี่รถบรรทุกเปลี่ยนเป็นใบขับขี่รถเก๋งจะง่ายทีเดียวไม่ต้องสอบใหม่ แต่ปัจจุบัน โรงเรียนสอนขับรถได้พัฒนามากแล้ว และมีบริการดี สมัครเรียนแบบเป็นกลุ่มก็มี แบบคนต่อคนก็มี แต่ต้องเรียนครบ 58 ชั่วโมง
58 ชั่วโมง มากกว่าเมืองไทยไม่น้อยค่ะ เมืองไทยเรียนประมาณ 10 ชั่วโมงหรือไม่ได้ไปเรียนขับรถ หัดขับเอาเองก็ไปสอบใบขับขี่ได้ เพียงแต่ว่า ต้องสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้ผ่าน ทั้งทักษะการออกรถ หยุดรถ กลับรถและการจอดรถในที่แคบ จอดชิดฟุตบาทไม่เกิน 25 ซม. และถอยเข้าในที่แคบๆ เป็นต้น