ตอบคำถามของคุณวรงค์ แสงวัชรพันธ์
เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่เกิดอุบัติเหตุจราจรมากที่สุด ทางโรงเรียนจึงปรับการเรียนการสอนให้เข้มงวดกวดขัน และตั้งระบบตรวจสอบการเข้าเรียนของผู้เรียนใหม่
ต้องรายงานตัวแบบจิ้มนิ้วมือ เพื่อป้องกันการกระโดดร่ม หนีเรียนใช่ไหม เอาจริงเอาจังทีเดียว จริงๆ เป็นมาตรการที่ดีเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อนักเรียนและผู้ใช้รถใช้ถนน
การเรียนขับรถอย่างมีวินัยจราจร เพื่อให้มีพฤติกรรมการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเป็นการเริ่มต้นปูพื้นฐานที่ดี ซึ่งจะทำให้คนขับได้สำนึก และละอายใจว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควร อะไรไม่ควร ไม่ใช่ว่า ไม่เห็นตำรวจอยู่ ก็จะทำอะไรที่เอาเปรียบสังคม เอาเปรียบคนใช้รถใช้ถนน
การขับรถอย่างปลอดภัยตามกฎจราจร เป็นความเคยชินที่สำคัญมากสองสามปีมานี้ ดิฉันเห็นมีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุจราจรเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมๆไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ และเมื่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนมีจิตสำนึกและมีความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการขับรถมากขึ้น ความปลอดภัยบนท้องถนนก็จะมีมากขึ้น
หลายปีแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีกำลังไม่เพียงพอ กรุงปักกิ่งและเมืองใหญ่ๆ ได้ติดตั้งระบบสมองกล รวมกล้องถ่ายวิดีโอ และอุปกรณ์เรดาร์เหมือนกล้องวงจรปิดทั่วไปติดตามเสาไฟฟ้า สะพานลอย สะพานข้ามแยก เพื่อตรวจจับการกระทำผิดกฎจราจรโดยอัตโนมัติ โดยจะเน้นการตรวจจับความเร็ว และการกระทำผิดกฎจราจรอื่นๆ เพื่อลดอุบัติเหตุ ช่วยให้จำนวนผู้กระทำผิดกฎจราจรลดลงได้มาก
กล้องจะทำการจับภาพ และแจ้งผ่านระบบ 3G ไปยังเจ้าหน้าที่ควบคุม โดยจะมีการถ่ายภาพทะเบียนรถ และผู้กระทำผิดจะได้รับแจ้งให้ไปจ่ายเงินค่าปรับโดยมีข้อความทางโทรศัพท์มือถือ หรือเช็คดูทางเว็บไซต์ของกรมตำรวจจราจร พร้อมทั้งมีการหักคะแนนตามความผิดพลาด
เมืองต่างๆของจีนต่างได้ใช้มาตรการนานับประการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางจราจรให้น้อยลง โดยส่วนใหญ่ใช้ระบบหักคะแนนและปรับเงินตั้งแต่ 1 คะแนนปรับ 100 หยวน ไปจนถึง 12 คะแนน ปรับเงิน 2,000 หยวน และถูกยึดใบขับขี่
ที่ถูกหัก 1 คะแนนปรับ 100 หยวน มีหลายอย่าง เช่น จอดรถผิดสถานที่ ออกรถในวันที่ห้ามออก
วันที่ห้ามออก หมายความว่าอะไร
กรุงปักกิ่งยังใช้มาตรการเพื่อลดปริมาณการใช้รถในตัวเมือง โดยจำกัดรถออกถนนสัปดาห์ละหนึ่งวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ตามเลขท้ายป้ายทะเบียนรถ เช่น วันจันทร์ จะห้ามรถเลขท้าย 1 และ 6 ออก วันอังคารห้ามรถเลขท้าย 2 และ 7 ออก เป็นต้น ซึ่งข้อกำหนดนี้จะสลับเปลี่ยนกันทุกสามเดือน ถ้าออกรถในวันที่ห้ามออกจะถูกหัก 1 คะแนน ปรับ 100 หยวน
การขับฝ่าไฟแดงและเมาแล้วขับจะถูกหักเท่าไร
ฝ่าไฟแดงจะถูกหัก 3 คะแนน 200 หยวน ดื่มสุราแล้วขับจะลงโทษตามการตรวจวัดแอลกอฮอล์ หนักที่สุดจะถูกหัก 12 คะแนนปรับเงิน 500-2,000 หยวน และถูกยึดใบขับขี่ไปเลย
ผู้ที่ผิดกฎจราจรที่ถูกหักคะแนนทั้งหมดซึ่งทุกคนมี 12 คะแนนเท่านั้นต่อปี ถ้าถูกหักหมด ต้องสอบใบขับขี่ใหม่ใช่ไหม
ขนาดลงโทษหนักเช่นนี้ ก็ยังมีคนไม่ให้ความสำคัญหรือเกรงกลัวต่อกฎหมาย ขาดระเบียบวินัย ไม่เคารพกฎกติกาทางสังคม ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อประเทศชาติในอนาคต
ในอนาคตไม่ช้านี้ จีนกับอาเซียน จะเปิดเส้นทางคมนาคมไปมาหาสู่กันมากขึ้น เราชาวเอเชียทั้งหลายควรตระหนักและให้ความสำคัญเคารพในกฎจราจร เพื่อให้เส้นทางคมนาคมทุกเส้นทางมีความปลอดภัยตลอดสาย