เมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เทศบาลเมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการฝ่ายจีนของคณะกรรมการกิจการพาณิชย์จีน-อาเซียน จัดงานประชาสัมพันธ์เมืองฉงจั่วก้าวสู่อาเซียนในประเด็น "เมืองฉงจั่ว โอกาสพาณิชย์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการไปมาหาสู่กันระหว่างจีนกับอาเซียน" เพื่อแสดงถึงความปรารถนาแห่งพัฒนาการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับประเทศอาเซียน ส่งเสริมให้ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน โดยมีเอกอัครราชทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายพาณิชย์ของประเทศอาเซียนประจำประเทศจีน ผู้รับผิดชอบจากหน่วยงานและสมาคมที่เกี่ยวข้องของจีน ผู้แทนนักธุรกิจและสื่อมวลชน ประมาณ 160 คนเข้าร่วมงานประชาสัมพันธ์ครั้งนี้
พร้อมกับที่จีนและอาเซียนมีการค้ามากขึ้นทุกวัน การคมนาคมทางบกกลายเป็นช่องทางโลจิสติกส์ที่สำคัญที่สุด ในฐานะเป็นเมืองเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจระหว่างจีนกับเวียดนามและระเบียงเศรษฐกิจระหว่างเมืองหนานหนิงกับประเทศสิงคโปร์ เมืองฉงจั่วจะเร่งการสร้างระเบียงเศรษฐกิจระหว่างเมืองหนานหนิง-เมืองฉงจั่วกับอาเซียนในทางบก พยายามสร้างเงื่อนไขที่ดีแก่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับอาเซียน นายหวง เค่อ นายกเทศมนตรีเมืองฉงจั่วกล่าวว่า เมืองฉงจั่วจะถือการสร้างเขตอุตสาหกรรมเป็นที่ตั้ง ผลักดันการสร้างเขตเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับหนานหนิงและฉงจั่ว ผลักดันการสร้างนิคมสำคัญ 8 แห่ง อาทิ นิคมอุตสาหกรรมเยาวชนจีน-อาเซียน เขตปลอดภาษีผิงเสียงแห่งกวางสี เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจข้ามชาติระหว่างจีน-เวียดนาม เป็นต้น เมื่อปี 2011 เขตเศรษฐกิจหนานหนิง-ฉงจั่วได้ตั้งโครงการด้านอุตสาหกรรมการผลิต 503 ราย มียอดการลงทุน 12,638 ล้านหยวน เขตอุตสาหกรรมดังกล่าวมีความเข้มแข็งมากขึ้น จนเกิดเป็นระบบเขตอุตสาหกรรมที่มีเอกลักษณ์และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นายเหวียน วอน เธอ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีนกล่าวที่งานประชาสัมพันธ์ว่า ประเทศอาเซียนยินดีต้อนรับเมืองฉงจั่วในการพัฒนามิตรภาพและความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า และควรแสดงความได้เปรียบทางทำเลที่ตั้งของเมืองฉงจั่ว สร้างสะพานเชื่อมสำคัญสำหรับความร่วมมือของวิสาหกิจจีนกับอาเซียน เขากล่าวว่า เมืองฉงจั่วมีความได้เปรียบเป็นพิเศษ เป็นกำลังหลักแก่การค้าระหว่างสองประเทศ ยังได้เปิดช่องทางทางบกหลายสายเพื่อเชื่อมต่อเวียดนามและประเทศอื่นๆของอาเซียน เพื่อให้การค้าระหว่างจีนกับเวียดนามมีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
(Ton/Ping)