เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา นางอองซาน ซูจี ประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเมียนมาร์ได้เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของสหรัฐฯ นับเป็นการเยือนสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี ตามคำเชิญจากนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ในระหว่างการเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลาครึ่งเดือนกว่านั้น นางอองซาน ซูจีจะเยือนกรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์คและเมืองซานฟรานซิสโก เป็นต้น และจะขึ้นรับรางวัลเหรียญทอง ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่มีต่อประชาชนจากรัฐสภาสหรัฐฯ และรับรางวัลพลเมืองโลกจากสภาแอตแลนติก นอกจากนี้ นางอองซาน ซูจีจะพบปะกับผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ และผู้แทนชาวสหรัฐฯ เชื้อสายเมียนม่าร์ และจะกล่าวปาฐกถาในมหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ด้วย
การเยือนสหรัฐฯของนางอองซาน ซูจีในครั้งนี้ นายเดเร็ค มิตเชล เอกอัคราชทูตสหรัฐฯประจำเมียนมาร์ได้เดินทางไปพร้อมกันด้วย นับเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งที่ 3 ของนางอองซาน ซูจีตั้งแต่ได้รับการยกเลิกการกักบริเวณในบ้านและดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเมียนมาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เยือนไทยและยุโรป ในระหว่างสิ้นเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นางอองซาน ซูจีไปเยือนไทยในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเมียนมาร์เป็นครั้งแรก และได้เข้าร่วมการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกที่จัดขึ้นในไทย เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ นางอองซาน ซูจีได้ไปเยือนสวีเดน นอร์เวย์ อังกฤษ ไอร์แลนด์และฝรั่งเศส เธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 1991 ในกรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ในมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด และได้รับเกียรติเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของกรุงปารีส ขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆ ในยุโรปได้ผ่อนคลายการคว่ำบาตรเมียนมาร์ และจัดส่งเอกอัครราชทูตไปประจำในแต่ละประเทศ สิ่งที่น่าจับตามองคือ สิ้นเดือนกันยายนนี้ พลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชาใหญ่สหประชาชาติที่จัดขึ้นในสหรัฐฯ และกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับสภาพการปฏิรูปสังคมของเมียนมาร์กับประชาคมโลก รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา นางอองซาน ซูจีและพลเอกเต็ง เส่งได้มีการเจรจากันอย่างไม่เป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน
การเยือนสหรัฐฯ ของนางอองซาน ซูจีกับพลเอกเต็งเส่งจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับเมียนมาร์ และเป็นการพยายามหาการสนับสนุนและความช่วยเหลือในการปฏิรูปด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของเมียนมาร์จากสหรัฐฯและประชาคมโลก
Na/kt