ปัจจุบัน แม้ว่าแนวโน้มการพัฒนาตลาดรถยนต์ทั่วโลกช้าลง แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ของอาเซียนได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ใกล้เป้าหมายที่จะเป็นตลาดรถยนต์อันดับที่ 6 ของโลก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่า ตามอัตราการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่อันดับที่ 6 ของโลกในปี 2018
ครึ่งแรกปีนี้ ยอดการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ของไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกสำคัญของอาเซียนสูงถึง 1,570,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว เช่น หลังเหตุมหาอุทกภัยในไทย ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดจำหน่าย 131,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.6 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ กระทรวงอุตสาหกรรมไทยคาดว่า ยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้จะสูงถึง 2 ล้านคัน ขึ้นแท่นประเทศผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับที่ 9 ของโลก
ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสหกรรมรถยนต์ เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน สมเหตุสมผล และตามหลักวิทยาศาสตร์ด้วย ประการแรก ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องไม่คิดถึงผลกำไรโดยละเว้นการวางแผนทิศทางการพัฒนาในอนาคต ควรพัฒนาอุตสหกรรมรถยนต์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้สูงขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจประเทศชาติ ประการที่ 2 ควรกำหนดเป้าหมายการพัฒนาอุตสหกรรมรถยนต์ให้ชัดเจน โดยพิจารณาถึงความจริงหลายๆ ด้าน ดังนั้น ประเทศอาเซียนควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว ผลิตรถยนต์ขนาดความจุกระบอกสูบต่ำมากกว่ารถยนต์ขนาดความจุกระบอกสูบสูง ใช้ผลิตภัณฑ์จากพลังงานใหม่และผลิตภัณฑ์จากการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่ๆ มากกว่าการใช้น้ำมันแบบเก่า และพัฒนารถยนต์ให้ชนบทมากกว่าในตัวเมือง
Ton/kt