นายจูลิโอ ริออส ชี้ให้เห็นว่า ช่วง 20 กว่าปีแรกของการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอก จีนคงเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจมาโดยตลอดและไม่เคยเปลี่ยนคำขวัญที่ว่า "ประสิทธิภาพของการผลิตเป็นอันดับหนึ่ง ความเสมอภาคทางสังคมเป็นอันดับ 2 " แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทัศนะของปัจจุบัน คือ ประสิทธิภาพและความเสมอภาคมีความสำคัญเท่ากัน ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงทางสังคม แม้ว่าการนี้ยังคงไม่สามารถเทียบเท่ากับประเทศตะวันตกที่ีมีสวัสดิการสมบูรณ์แบบ แต่เราต้องเห็นถึงว่า เมื่อ 10 ่ปีก่อน หัวข้อของความเสมอภาคทางสังคมยังไม่มีในกำหนดการของพรรคฯ นี่เป็นผลจากการขบคิดอย่างละเอียดและเอาจริงเอาจังของกลุ่มผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทั้งได้รวบรวมปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและกำลังด้านวัฒนธรรมและทัศนะแนวคิดให้เข้าในกำหนดการการพัฒนาของจีนด้วย
ในเขตพื้นที่อื่นๆ ของโลก การพัฒนาของนโยบายสาธารณะฉบับใหม่คงจะต้องใช้เวลา 10 – 15 ปีจึงจะได้เห็นผล และในประเทศจีนที่มีประชากรจำนวนใหญ่หลวง คงมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น คงจะต้องชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่สำคัญมากในกระบวนการคือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนา ถ้าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนา ก็ต้องลดความเร็วลง เพราะว่าขณะนี้ เศรษฐกิจจีนเหมือนกับขบวนรถไฟที่กำลังจะเปลี่ยนราง จึงต้องลดความเร็วอย่างเหมาะสม มิฉะนั้นคงเกิดเหุตตกราง
การปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นโครงการสลับซับซ้อนมาก บุคคลทั้งในจีนและต่างประเทศล้วนมีความรู้ชัดแจ้งว่า รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบเก่าใกล้จะหมดศักยภาพแล้ว ถ้าหากจีนอยากบรรลุเป้าหมายที่ว่า พัฒนาจาก"เมดอินไชน่า" ไปสู่ "ประดิษฐ์คิดสร้างในจีน" นั้น คงต้องยกระดับคุณภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น
ส่วนปัญหาใหญ่สุดในหลายปีข้างหน้า คือ หน่วยงานสาธารณะที่ครองฐานะสำคัญในจีนนั้น จะกลายเป็นสิ่งขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจะเป็นหลักประกันที่ทำให้พรรคฯ สามารถควบคุมกระบวนการการปฏิรูปต่อไป
จนถึงปี 2010 ผลกำไรของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ 500 บริษัทแรกของจีน ยังไม่ถึงผลกำไรครึ่งหนึ่งของรัฐวิสาหกิจน้ำมันปิโตรเลียมแห่งหนึ่ง กล่าวคือ หน่วยงานสาธารณะมีสัดส่วนสูงมากในเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งปัญหานี้มิเพียงแต่เป็นปัญหาทางเศรษฐกิจเท่านั้น ทั้งยังเป็นปัญหาทางการเมืองด้วย เพราะว่าพรรคฯ มีความสำนึกว่า ถ้าหากสูญเสียพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และสูญเสียอำนาจควบคุมหน่วยงานสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ก็คงสูญเสียอำนาจผลักดันและควบคุมกระบวนการการปฏิรูปด้วย
นี่เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่รัฐบาลจีนยังคงสามารถรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยความเร็วที่เหมาะสมในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิืจ เพราะว่ารัฐบาลมีความสามารถในการควบคุมและส่งเสริมกระบวนการการพัฒนาเศรษฐกิจสูงกว่าประเทศตะวันตก
(Yim/Lin)