ขณะกล่าวถึงคำว่า "หมู่บ้าน" คนจีนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเขตชุมชุนในชนบท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่บ้านขนาดเล็กและมีประวัติศาสตร์ยาวนานนั้น ผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านแบบนี้ ส่วนใหญ่จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือมีสายเลือดเดียวกัน แต่ว่า หมู่บ้านที่ผมอยากจะพูดคุยในรายการวันนี้ ไม่ใช่หมู่บ้านในชนบทแบบนี้ ผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่มาจากท้องที่ต่างๆทั่วประเทศของจีน แต่พวกเขาต่างมีความปรารถนาร่วมกัน คือมีความมุ่งมั่นแข็งกร้าวในด้านการเขียนวรรณกรรม
หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ตำบลจังมู่โถวของเมืองตงกว่าน ซึ่งอยู่ในเขตภูเขาตงกว่าน ห่างจากเมืองก่วางโจวและเซินเจิ้นไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และติดกับเมืองฮ่องกง มาเก๊าด้วย เป็นหมู่บ้านโบราณชาวจีนแคะหรือฮากกาแห่งเดียวในเมืองตงกวั่น ในเขตบริเวณนั้นมีต้นไม้ดอกไม้ครอบคลุมไปทั่ว อัตราการครอบคลุมเกือบเป็น 99% ดังนั้นจึงมีภูมิอากาศแวดล้อมทางธรรมชาติที่ดีมาก
เกี่ยวกับเรื่องความเป็นมาของชื่อเรียกที่ที่หมู่บ้านนักเขียนนั้นมีคำกล่าวหลายอย่าง คือ เมื่อครึ่งปีหลังของ 2006 ได้มีนักเขียนระดับชาติของจีนหลายคนได้จัดซื้อบ้านพักตามบริเวณแถวนี้แล้ว อย่างเช่น นายหวังซง นักเขียนระดับชาติได้มาซื้อบ้านที่นี่หลังหนึ่งเป็นคนแรก ต่อมาไม่นาน นายเกื่อสุ่ยผิง ประธานสหพันธ์นักเขียนของเมืองฉางจื้อมณฑลซันซี นักเขียนเสี่ยมั่ว เฉินฉี่เหวิน หวังซงเป็นต้นได้ซื้อบ้านเข้าประจำในแถวนี้ ซึ่งค่อยๆขยายบทบาทการเป็นชุมชุนนักเขียนในเขตนี้แล้ว หลังจากรัฐบาลท้องถิ่นได้รับรู้เรื่องนี้แล้ว จึงใช้ความพยายาม ส่งเสริมให้นักเขียนจากท้องที่ต่างๆทั่วประเทศมาซื้อบ้านและอาศัยที่นี่ และหมายจะสร้างเขตจางมู้โถวให้เป็นฐานประดิษฐ์คิดค้นด้านวรรณกรรมแห่งแรกของจีน และเมื่อวันที่ 28 กันยายนปี 2010 นายเหลยต๋า นักวิจารณ์ด้านวรรณกรรมแจ้งชื่อหมู่บ้านนักเขียนที่เว็บไซท์ของเขตชุมชุนที่เขาอยู่และเยกแซวตนเองว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านประจำอยู่บ้านนักเขียนแห่งนี้ และยังแต่งตั้งนักเขียนอีกสองท่าน นายหวังซงกับนายเสี่ยมั่วเป็นรองผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบัน นักเขียนที่อาศัยในหมูบ้านแห่งนี้ได้เพิ่มขึ้นจาก 4 ท่านเป็นจำนวนกว่า 40 ท่านแล้ว พวกเขาต่างซื้อบ้านและเริ่มอาศัยในเขตนี้แล้ว และชื่อหมู่บ้านนักเขียนจึงค่อยๆแพร่ขยายออกมา
แม้ว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านกิตติมศักดิ์ของหมู่บ้านนักเขียนที่แต่งตั้งด้วยตัวเองก็ตาม แต่นายเหลยต๋ายังคิดบ่อยๆว่า ปัจจุบัน แม้ว่ามีนักเขียนจำนวนหนึ่งได้มาพักอาศัยในเขตนี้และยังได้ออกผลงานเป็นจำนวนหนึ่งก็ตาม แต่ในเขตนี้ยังขาดสิ่งก่อสร้างที่เป็นจิตวิญญาณของตน
เขากล่าวว่า ที่อิตาลี มีหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งเรียกว่า Santa Maddalena ในหมู่บ้านแห่งนี้มีเหลือสิ่งก่อสร้างสำคัญไม่กี่แห่งเท่านั้น เหลือเพียงปราสาทอันเก่าแก่ โบสถ์ หอคอยและยุ้งข้าวเท่านั้น ส่วนอื่นโดยรอบปกคลุมไปด้วยป่าไม้ทั้งสิ้น แต่เขตนี้ได้ดึงดูดนักเขียนทั่วโลกไปพำนักที่นี่อีกด้วย อาจเนื่องจากมีบรรยากาศและภูมิประเทศที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักเขียนเป็นอย่างมาก
นายเหลยต๋าเห็นว่า เพื่อสร้างให้ตำบลจังมู่โถวกลายเป็นเขตชุมชนของนักประพันธ์ จำเป็นต้องสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ให้เปี่ยมไปด้วยท่วงทำนองแห่งวรรณกรรม นอกจากมีบรรยากาศแวดล้อมที่ดีแล้ว ยังต้องให้ความสนใจในการสร้างสรรค์จิตใจทางวัฒนธรรมด้วย
นายเหลยต๋าเห็นว่า ในหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ส่งเสริมให้นักเขียนชาวจีนมาพำนักอาศัยอยู่เท่านั้น หากยังควรชวนให้นักเขียนชาวต่างชาติมาพำนักอาศัยอยู่เขตนี้ด้วย ไม่ว่าจะอยู่นานหรือแค่ช่วงสั้นก็ตาม จะให้การต้อนรับด้วยความยินดีทั้งสิ้น หมู่บ้านนักเขียนแห่งนี้จำเป็นต้องบันทึกร่องรอยการอยู่อาศัยและการทำงานของนักเขียน แล้วค่อยให้ผู้รักวรรณกรรม นักศึกษาและนักวิชาการมาเยี่ยมชมบ่อยครั้ง นายเหลยต๋ายังฝากความปรารถนาว่า จะสร้างหมู่บ้านนักเขียนแห่งนี้ให้เป็นบ้านจิตวิญญาณของนักเขียน
ความเห็นแบบนี้ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลท้องถิ่นด้วย ผู้บริหารในตำบลจังมู่โถวเริ่มใช้ปฏิบัติการ เช่น ได้ตั้งโครงการจะสร้างหอสมุดโดยรวบรวมผลงานของนักเขียนในหมู่บ้านนักเขียนแห่งนี้เป็นหลัก และเปิดให้ชาวบ้านมายืมอ่านได้ นอกจากนั้นยังจัดให้นักเขียนประจำหมู่บ้านไปเยี่ยมชมหน่วยงานรัฐบาล โรงเรียนและวิสาหกิจต่างๆ เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยน และเสริมคุณภาพด้านวรรณกรรมของชาวบ้านให้สูงขึ้น
Jun