เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:สมรส สมรัก (2)
  2013-06-28 18:52:58  cri

แน่นอนการแต่งงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการประกาศใช้ชีวิตครอบครัวของคู่สมรสเท่านั้น ชายหญิงที่แต่งงานกันแล้วมีสิ่งที่ต้องขบคิดรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาหลังข้ามผ่านประตูวิวาห์อีกมากมาย โดยเฉพาะคู่ชาวจีนที่ต้องการมีลูกสืบสกุลด้วยแล้วต่างอดกังวลใจไม่ได้ถึง เรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรที่ว่าแพงแบบมหาโหด แต่ก็ยังมีไม่น้อยคนไม่หวั่นกับภาระเลี้ยงดู และต้องการอย่างมากที่จะท้องลูกคนที่สอง

โดยศูนย์วิจัยกว่างโจวโพลล์ได้ประกาศผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวน 3,000 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ร้อยละ 78 ของผู้ตอบสำรวจระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูและให้การศึกษาของเด็กสมัยนี้สูงมาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ที่มีค่าครองชีพสูง ต้องรับภาระเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรที่สูงกว่าเมืองระดับอำเภอกว่า 10 จุด แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้ตอบสำรวจถึงร้อยละ 69 สนับสนุนความคิดที่ว่าคู่แต่งงานที่ยังหนุ่มยังสาวควรมีลูกสัก 2 คน

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ ระบุว่าประชาชนในเมืองใหญ่ร้อยละ 84 และในเมืองใหญ่ระดับจังหวัดร้อยละ 83 เห็นว่าค่าเลี้ยงดูบุตรแพงจนน่ากลัว ยกตัวอย่างเมืองกว่างโจว ประชาชนต้องผจญกับค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรแพงเป็นด่านแรก ตามด้วยปัญหาเรื่องการศึกษา ที่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ค่าแป๊ะเจี๊ยะ ค่าบ้านเขตโรงเรียนดังที่ขยับสูงพรวดๆ ฯลฯ ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองชาวกว่างโจวกล้าๆ กลัวๆ กับการจะมีลูกสักคน ซึ่งเสียงบ่นระงมของประชาชนถึงปัญหาค่าเลี้ยงดูบุตรแสนแพงนี้ กำลังทดสอบขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจีน

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนครั้งนี้ยังพบว่า เกี่ยวกับคำถามที่ว่าพ่อแม่หนุ่มสาวชาวจีนควรจะมีลูกสักกี่คนจึงจะเหมาะสม ผลปรากฏว่าผู้ตอบสำรวจกว่าร้อยละ 69 เห็นว่าควรมีสัก 2 คน ส่วนร้อยละ 24 ว่าให้ดีควรมีแค่คนเดียวพอ โดยร้อยละ 73 ของผู้ตอบสำรวจเพศหญิงระบุเห็นดีเห็นงามกับการมีบุตร 2 คน ซึ่งสูงกว่าผู้ตอบสำรวจเพศชาย 7 จุด

ทั้งนี้ เหตุผลหลักที่ผู้ตอบสำรวจจำนวนไม่น้อยเลือกตอบว่าควรมีท้องสอง คือ รู้สึกว่าในครอบครัวมีเด็กเพิ่มอีกคนจะมีความร่าเริงคึกคักกว่า บ้างว่าเพื่อที่เด็กทั้งสองคนจะได้เป็นเพื่อนเล่นกัน ขณะเดียวกันการมีลูกอีกคนน่าจะเป็นผลดีต่อการฝากผีฝากไข้ในยามแก่เฒ่าของตนได้ ซึ่งปัจจุบันหากคู่สามีภรรยาไม่ได้เป็นข้าราชการและต่างเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว สามารถมีลูกคนที่สองได้ แต่ชีวิตครอบครัวหลังแต่งงานกับภาระค่าเลี้ยงดูบุตร อาจทำให้บทสนทนาหวานหยดเมื่อก่อนแต่งดังที่กล่าวถึงไปเมื่อครั้งก่อน ต้องเปลี่ยนวิธีการอ่านจากบนลงล่าง เป็นจากล่างขึ้นบนแทนก็ได้

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府

ความต่างระหว่างก่อนแต่งกับหลังแต่ง

(ก่อนแต่งงาน : อ่านจากบนลงล่าง)

男:太好了!我期盼的日子终于来临了!我都等不及了!

(ชาย: เยี่ยมไปเลย! วันที่ผมรอคอยในที่สุดก็มาถึงเสียที! ผมรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!)

女:我可以反悔吗?

หญิง: ฉันขอถอนคำพูดได้มั๊ย?

男:不,你甚至想都别想!

ชาย: ไม่นะ เธออย่าแม้แต่จะคิดเชียว!

女:你爱我吗?

หญิง: เธอรักฉันมั๊ย?

男:当然!

ชาย: แน่นอน!

女:你会背叛我吗?

หญิง: เธอจะนอกใจฉันมั๊ย?

男:不会,你怎么会有这种想法?

ชาย: ไม่มีทาง ทำไมเธอถึงมีความคิดแบบนี้ได้?

女:你可以吻我一下吗?

หญิง: เธอจูบชั้นสักนิดได้มั๊ย?

男:当然,决不可能只有一下!

ชาย: แน่นอน ไม่เพียงแค่สักนิดด้วย!

女:你有可能打我吗?

หญิง: เธอจะมีลงไม้ลงมือกับฉันมั๊ย?

男:永远不可能!

ชาย: ไม่มีวันซะหรอก!

女:我能相信你吗?

หญิง: ฉันสามารถเชื่อใจเธอได้มั๊ย?

(หลังแต่งงาน : อ่านจากล่างขึ้นบน)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040