หากก้าวขึ้นรถเมล์ในจีน แตะบัตรชำระค่าโดยสารที่เครื่องเรียบร้อยแล้ว แต่คนขับยัง "วอน" หาว่าชำระไม่เรียบร้อยให้หยิบออกมาชำระใหม่ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้โดยสารที่โดนเรียกไม่น้อย โดยหารู้ไม่ว่าที่แท้เป็น "รหัสลับ" แสดงความหวังดีจากคนขับให้ระวังนักล้วงต่างหาก
แม้จะเห็นความผิดสังเกตแล้วแต่จะกระโตกกระตากไปก็อาจเป็นภัยมาถึงตัวได้ การบอกให้ชำระใหม่ก็เพื่อหวังให้ก้มดูกระเป๋าหยิบของจะได้พ้นจากการตกเป็นเหยื่อสูญทรัพย์ ซึ่งพนักงานขับรถประจำทางที่มีประสบการณ์ทำงานมานานถึง 12 ปีนามว่าหยวนหงปิน ที่แต่ละวันจะต้องขับตามเส้นทางระหว่างสถานีขนส่งกับสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นป้ายที่มีผู้โดยสารหนาแน่นนับเป็นโอกาสเหมาะแก่การลงมือของพวกมิจฉาชีพได้บอกถึงรหัสลับที่คนขับนิยมใช้กันมากสุดสามอันดับดังนี้
"กรุณาชิดใน ระวังสิ่งของของตนด้วย"
อันดับหนึ่ง) "กรุณาชิดใน อย่าออกันอยู่ที่ประตู 请往里走,别挤在门口"
เป็นคำกล่าวธรรมดาที่คุ้นหูกันดี แต่ในสถานการณ์ธรรมดาที่อาจไม่ธรรมดา การเตือนผู้โดยสารด้วยประโยคนี้พร้อมต่อด้วยให้ระวังทรัพย์สินของตน มันแฝงความนัยถึงให้ระวังภัยนักล้วงด้วยแบบอ้อมๆ ไม่กระโตกกระตากนัก จึงเป็นคำเตือนติดปากที่คนขับทั้งหลายใช้กันบ่อยที่สุด
อันดับสอง) "กรุณาสละที่นั่งให้คนชรา คนป่วย ผู้พิการ และหญิงมีครรภ์ 请给老弱病残孕让座" หากบนรถไม่ปรากฏคนชราหรือหญิงมีครรภ์ แต่คนขับกลับประกาศเตือนไม่หยุดก็ให้ตระหนักถึงความผิดปกติได้แล้ว เพราะพฤติกรรมประหลาดของคนขับคือการหวังให้ผู้โดยสารตระหนักดูรอบๆ ตัวว่ามีผู้ที่ควรสละที่นั่งอยู่ไหน หรือขยับเปลี่ยนตำแหน่งเปลี่ยนท่ายืนจะได้พ้นระยะรอดจากการเป็นเป้าหมายของพวกนักล้วงที่แฝงมา
อันดับสาม) "บัตรชำระไม่ผ่าน กรุณาชำระใหม่อีกครั้ง 卡没刷上,请再刷一次" บางครั้งเมื่อคนขับเห็นว่าผู้โดยสารตกเป็นเป้าของนักล้วงแล้ว อาจใช้วิธีพูด "หาเรื่อง" กับผู้โดยสารแบบนี้โดยมีความแฝงที่ว่า "ระวังกระเป๋าให้ดีๆ" ลองก้มดูกระเป๋าเสียหน่อย และแม้ว่าอาจจะช่วยให้รอดพ้นจากขโมยได้ แต่มักจะต้องแลกกับการโดนผู้โดยสารค้อนใส่ไม่พอใจเอาได้ง่ายๆ
"กรุณายืนให้มั่นจับให้แน่น อย่ายื่นศีรษะและแขนออกนอกหน้าต่าง"
คำเตือนธรรมดาที่อาจแฝงความนัยให้ขยับเหลียวมองดูรอบข้าง
ทั้งนี้ เป็นเพราะเมื่อเห็นแล้วจะกระโตกกระตากพูดไป หากจับไม่ได้คาหนังคาเขาก็จะเป็นการใส่ร้ายป้ายสีได้ หรือถ้าจับได้ก็อาจถูกตามล้างแค้นเป็นภัยต่อตนเองเหมือนที่เคยเกิดเป็นข่าวมาแล้ว เมื่อเข้าใจความนัยเหล่านี้ก็ย่อมเป็นผลดีทั้งคนบอกและคนฟัง แต่คนขับรถต้องมองถนนไม่สามารถช่วยสอดส่องความผิดปกติภายในรถได้ตลอด ดังนั้น หากระหว่างผู้โดยสารด้วยกันช่วยกันระวังภัย เตือนแบบบอกความนัย อาทิ บอกว่ามีของหล่นหรือสะกิดขอทางเพื่อให้ผู้ตกเป็นเป้าเขยื้อนตัวให้พ้นมือมิจฉาชีพก็อาจจะช่วยให้สังคมน่าอยู่ปลอดภัยมากขึ้นก็เป็นได้ แต่ทางที่ดีระวังสิ่งของมีค่าของตนอย่าให้ต้องเป็นภาระคนอื่นมาคอยเตือนย่อมจะเป็นสุขถ้วนหน้ากว่า
เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府