เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ การประชุมเต็มคณะของสภาสูงสหรัฐฯ ผ่านมติฉบับหนึ่ง โดยกล่าวหาว่าจีนปรับสภาพดินแดนของปัจจุบัน มีการขู่และใช้กำลังอาวุธในบริเวณเกาะเตี้ยวอี๋ว์และทะเลจีนใต้ โดยไม่คำนึงถึงความจริงและการคัดค้านหลายครั้งของจีน
มติฉบับนี้ ยื่นโดยสมาชิกรัฐสภาของพรรคเดโมแครต มติถือคำกล่าวของญี่ปุ่นที่ว่าเรือรบจีนใช้ระบบเรดาร์ที่สามารถควบคุมการเล็งเป้าสู่เรือรบญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง ชี้ว่าน่านน้ำในบริเวณทวีความเครียด และกล่าวว่า การเดินเรืออย่างเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
แต่เหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้เรดาร์ควบคุมการเล็งเป้านั้น กระทรวงกลาโหมจีนแถลงหลายครั้งแล้วว่า คำกล่าวของญี่ปุ่นไม่เป็นความจริง ญี่ปุ่นใส่ร้ายทหารจีน ทำให้ประชาคมโลกเข้าใจผิด เป็นการกระทำที่มีเจตนา จีนยังเน้นว่า ในระยะยาวที่ผ่านมา ญี่ปุ่นติดตามและก่อกวนเรื่องบินและเรือรบของจีนอย่างใกล้ชิด คุกคามความปลอดภัยของเรือรบและเครื่องบินจีน ทั้งนี้เป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาความมั่นคงในน่านน้ำและน่านฟ้าระหว่างจีนกับญี่ปุ่น จีนมีหลักฐานเพียงพอ
มติของสภาสูงสหรัฐฯ ยังระบุว่า สหรัฐฯ เห็นว่าเกาะเตี้ยวอี๋ว์ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น ซึ่งไม่เปลี่ยนความเข้าใจดังกล่าวเนื่องจากการกระทำลำพังฝ่ายเดียวของฝ่ายที่สาม และจะใช้กำลังอาวุธรับมือกับการโจมตีอย่างเด็ดขาดตามสนธิสัญญารักษาความปลอดภัยระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น
กระทรวงการต่างประเทศจีนประกาศหลายครั้งว่า เกาะเตี้ยวอี๋ว์และหมู่เกาะในบริเวณเป็นดินแดนของจีนมาแต่สมัยโบราณ จีนมีสิทธิอธิปไตยอย่างเด็ดขาด สนธิสัญญารักษาความปลอดภัยระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นเป็นผลจากสมัยสงครามเย็น ไม่ควรเกินออกจากขอบเขตทวิภาคี และไม่ควรทำลายผลประโยชน์ของฝ่ายที่สาม
จีนเน้นว่า สหรัฐฯ เคยกล่าวหลายครั้งว่าจะไม่มีจุดยืนในปัญหาข้อพิพาทดินแดนระหว่างจีนกับญี่ปุ่น หวังว่าสหรัฐฯ คำนึงถึงสถานการณ์ความมั่นคงของภูมิภาค มีคำพูดจาและกริยาเดียวกัน อย่าส่งสัญญาณที่มีข้อขัดแย้ง
สื่อมวลชนเห็นว่า ข้อขัดแย้งของเกาะเตี้ยวอี๋ว์เกิดขึ้นจากญี่ปุ่น จีนไม่เคยบ่มขู่ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ไม่ควรแสดงท่าทีเป็นมิตรกับจีน และสนับสนุนญี่ปุ่นยึดครองเกาะเตี้ยวอี๋ว์ในเวลาเดียวกัน เพื่อใช้ญี่ปุ่นเป็นตัวหมากนำหน้าสหรัฐฯ ในการปิดล้อมประเทศจีน
(Yim/Ping)