เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง เปิดงานเทศกาลทุเรียนไทย 23 ก.ย.56
เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง วิบูลย์ คูสกุล ให้สัมภาษณ์วิทยุซีอาร์ไอ โดยกล่าวถึงโอกาสของตลาดผลไม้ไทย ในประเทศจีนว่า ความพยายามในการผลักดันและส่งเสริมความสัมพันธ์รอบด้านกับจีน นอกเหนือจากด้านการเมืองและความมั่นคงแล้ว ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าก็เป็นประเด็นสำคัญ
ปีที่แล้วยอดการค้าระหว่างไทยจีน ประมาณ 69,000 ล้าน ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรประมาณ ร้อยละ20-25 โดยในจำนวนนี้ สินค้าเกษตรที่สำคัญ อาทิ ยางพารา ข้าว มันสำปะหลังและผลไม้ไทย
ทุเรียนสดจากประเทศไทย
เอกอัครราชทูตวิบูลย์กล่าวว่า ผลไม้ไทยที่มีศักยภาพสูงมากในตลาดประเทศจีน อีกทั้งเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวจีนก็คือ ทุเรียน ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงของจีน ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีความรอบรู้และรู้จักผลไม้ไทย ท่านได้เคยกราบบังคมทูลถามสมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งไปเยือนไทยในปี 2011 ว่า หมอนทอง ยังเป็นทุเรียนพันธุ์ดีที่สุดของไทยอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ท่านไช่ อู่ รัฐมนตรีวัฒนธรรมของจีน ก็เป็นอีกคนที่ชื่นชอบทุเรียนไทย คนจีนจะเป็นคนที่หากชื่นชอบสิ่งใดแล้ว ก็จะไม่เกี่ยงเรื่องราคา
ทุเรียนแปรรูปประเภทต่างๆ
นอกจากทุเรียนสดแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปได้หลากหลายประเภท ทั้งทุเรียนทอดแบบแผ่น ทุเรียนอบแห้งกรอบ เค้ก ไอศครีม ทุเรียนกวน ท็อฟฟี่ และอาหารอื่นๆ ที่หลากหลาย ดังนั้นโอกาสทางธุรกิจของผลไม้ในเมืองจีนจึงมีอยู่มาก การแปรรูป ก็จะเพิ่มมูลค่าให้ราคาสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องการขนส่งและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์
"ไทยเป็นประเทศเดียวที่ส่งออกทุเรียนสดเข้ามาในประเทศจีนได้ เนื่องจากได้มีข้อตกลงกันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีความได้เปรียบด้านการคมนาคมขนส่งที่สะดวก มีการเชื่อมความร่วมมือด้านเครือข่ายคมนาคม จีนมีนโยบายเปิดสู่อาเซียน จากหนานหนิงและคุนหมิง ซึ่งไทยก็มีจุดที่เชื่อมได้สะดวกมาก"
นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีน ได้ประกาศนโยบายสำคัญไว้ในพิธีเปิดงานมหกรรมจีนอาเซียนครั้งที่ 10 ที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซี เมื่อต้นเดือนกันยายนว่า จะเร่งผลักดันการเชื่อมโยง และเชื่อมต่อคมนาคมระหว่างจีนกับอาเซียนในทุกด้าน ทั้งทางบก รถไฟ ทางน้ำ ทางอากาศ รวมทั้งการติดต่อสื่อสารและด้านพลังงาน
เอกอัครราชทูตวิบูลย์กล่าวว่า รัฐบาลทั้งไทยและจีน มีจุดยืนร่วมกันที่จะสนับสนุนผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน โดยเฉพาะเมื่อการเชื่อมต่อด้านคมนาคมสะดวก รวดเร็วมากขึ้น จะช่วยให้การค้าระหว่างกันราบรื่นยิ่งขึ้น เช่น จากชายแดนจีน ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 8 และ 12 เดินทางไปสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 เชื่อมต่อเข้าสู่จังหวัดนครพนมของไทย ระยะทางสั้นลงเพียงประมาณ 800 กิโลเมตรก็ทำให้ผลไม้ไทย เดินทางเข้ามาได้เร็วขึ้น เส้นทางนี้ใช้ขนส่งผลไม้จำนวนมาก
เส้นทางคมนาคมเชื่อมจีนกับชาติอาเซียน จากตะวันออก-ตะวันตก และเหนือ-ใต้ ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการขยายโอกาสทางการค้าระหว่างกัน ดังนั้นส่วนที่เหลือคือการเตรียมความพร้อมของเกษตรกรและนักธุรกิจไทยในด้านคุณภาพของผลผลิต
"สำหรับผลไม้สด ภาพลักษณ์สำคัญที่สุด ดังนั้น หัวใจสำคัญคือทำอย่างไรให้ขนส่งถึงมือผู้บริโภคเร็วที่สุด ไทยก็มีข้อได้เปรียบมากกว่าชาติอาเซียนอื่นๆด้านพื้นที่ภูมิศาสตร์ แต่สิ่งที่เกษตรกรและผู้ค้าชาวไทยต้องให้ความสำคัญมีสองเรื่อง คือ คุณภาพ กับความปลอดภัยด้านอาหาร เพราะคนจีนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก หลังเคยเกิดหลายกรณีที่ทำให้เขาไม่มั่นใจ เช่น นมปนเปื้อนสารเคมีและอาหารไม่ได้มาตรฐานต่างๆ ถ้าเขามั่นใจแล้ว ก็ไม่เกี่ยงเรื่องราคา"
เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่งกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ รัฐบาลไทยและจีน ได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่าย เพื่อดูแลเรื่องสินค้าเกษตรแล้ว โดยมีการลงนามในข้อตกลง เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ในครั้งที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เยือนจีน ดังนั้น จากนี้ไป เมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคใดเกี่ยวกับสินค้าเกษตร ก็สามารถนำมาหารือภายใต้กรอบคณะกรรมการชุดดังกล่าว
โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง
