ระหว่างบรรทัด:การต้องตอบสนองความคาดหวังของชาวจีนทั่วประเทศและทำให้นานาชาติยอมรับ คือความท้าทายของรัฐบาลจีนชุดปัจจุบัน
  2014-03-21 16:28:10  cri

การประชุมสองสภาของจีน ได้แก่ สภาปรึกษาการเมืองฯและสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนประจำปี 2014 เสร็จสิ้นไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีหลายประเด็นซึ่งอยู่ในความสนใจของชาวจีนทั้งประเทศและเป็นที่จับตามองของนานาชาติ โดยเฉพาะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหลังจากชะลอตัวมาระยะหนึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนประกาศตั้งเป้าให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี อยู่ที่อัตราร้อยละ 7.5 ถือเป็นตัวเลขคงที่ต่อเนื่องติดกันเป็นปีที่ 3 ขณะที่จีดีพีปีที่แล้ว (2013) โตเกินเป้าอยู่ที่ร้อยละ 7.7

ทว่าในเวลาเดียวกัน ขณะที่เศรษฐกิจเติบโตก้าวหน้า ปัญหามลพิษทั้งทางอากาศ การปนเปื้อนในน้ำและบนดิน ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน เป็นเรื่องหนักที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา เป็นปัญหาหนักหน่วงที่รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงวิตกกังวล จนกระทั่งนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อ เฉียง ได้หยิบยกประเด็นนี้มาเป็นวาระสำคัญของปีนี้ พร้อมประกาศทำสงครามกับมลพิษ เช่นเดียวกับการเร่งปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น

กวี จงกิจถาวร สื่อมวลชนอาวุโส ที่ติดตามสถานการณ์ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุซีอาร์ไอ โดยวิเคราะห์ว่า ประเด็นคอรัปชั่นเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญมาก เพราะเป็นปัญหาใหญ่ และมีส่วนทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ดังนั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะสังเกตเห็นว่า มีข่าวคราวการปราบปรามคอรัปชั่นนำเสนอผ่านสื่อของจีนอยู่เป็นระยะๆ ในขณะที่มลพิษทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งจัดการ เพราะตอนนี้หลายเมืองใหญ่มีปัญหามาก เช่น ปักกิ่ง เหอเป่ยและเซี่ยงไฮ้

"เรื่องนี้สำคัญสำหรับรัฐบาลจีนเพราะผูกติดกับคุณภาพชีวิตของประชาชน ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องพยายามสร้างสมดุลให้ได้ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี คาดกันว่า ตอนนี้ในเมืองต่างๆเกินกว่าครึ่ง จะชะลอความร้อนแรงของการเติบโตทางเศรษฐกิจลง โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น"

ในเวลาเดียวกัน เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อให้เป็นผู้นำในโลกก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาลชุดนี้ เพราะการที่เศรษฐกิจจีนเติบโต จะมีส่วนในการฉุดเศรษฐกิจโลกและในระดับภูมิภาคด้วย ดังนั้น กวีจึงเห็นว่า ไม่น่าแปลกใจ เมื่อรัฐบาลจีนได้ออกประกาศกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างเข้มงวดเพื่อผลักดันเรื่องนี้ รวมทั้งแนวทางปฏิรูปทุกด้านและผ่อนคลายทางการเงินการคลังมากขึ้น

ปีนี้เป็นปีที่สองของการบริหารประเทศ จึงถึงเวลาที่จะนำนโยบายที่ประกาศไว้มาปฏิบัติการและลงมือทำให้เป็นรูปธรรม

กวีเห็นว่า รัฐบาลนี้มีสิ่งท้าทายทั้งภายในและต่างประเทศ ภายในประเทศคือการปฏิรูปโครงสร้าง ปัญหาสิ่งแวดล้อม จะต้องตอบสนองความคาดหวังของชาวจีนที่จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ความคาดหวังที่สูงมากดังกล่าว อาจทำให้รัฐบาลอาจไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีและบูรณาการ ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาในอนาคต

ด้านต่างประเทศ รัฐบาลจีนจำเป็นต้องสร้างการยอมรับจากนานาชาติให้ได้ เพราะอำนาจทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้ทั่วโลกยอมรับได้อย่างแท้จริง ขณะนี้จีนมีปัญหาข้อพิพาทกับประเทศเพื่อนบ้านหลายเรื่อง อีกทั้งการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมปีนี้เป็นร้อยละ 12.2 แม้จะน้อยกว่างบประมาณของสหรัฐหลายสิบเท่า แต่เมื่อเปรียบเทียบพัฒนาการของจีนจากอดีต ถือว่าเป็นการเพิ่มที่ก้าวกระโดดมากพอสมควร

"มีความจำเป็นที่รัฐบาลจีนจะต้องอธิบายให้เพื่อนบ้านเข้าใจเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในเรื่องการเพิ่มงบประมาณกลาโหม แต่ผมคิดว่ารัฐบาลจีนเข้าใจปัญหานี้ เพราะเร็วๆ นี้ อาเซียนก็จะมีการประชุมเพื่อร่างแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมารัฐบาลจำเป็นต้องใช้ไม้แข็งในการจำกัดขอบเขตและกำหนดนโยบายต่างประเทศ แต่ผมเชื่อว่า จากนี้ไป จีนจะใช้นโยบายที่เป็นไม้อ่อนมากขึ้น เช่น ใช้ความสัมพันธ์ทางการค้า การทูต และพยายามหาทางแก้ไขความขัดแย้ง เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศให้มีเสถียรภาพ สามารถพัฒนาความเจริญของจีนได้ เพราะเหตุการณ์ในประเทศและต่างประเทศล้วนเชื่อมโยงกัน เชื่อว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง น่าจะแสดงบทบาทผู้นำที่ชัดเจนมากขึ้น นำนโยบายที่เสนอต่อสภาแล้วได้รับการยอมรับมาทำให้เป็นจริง"

กวีตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงหลังจะเห็นภาพรัฐบาลจีนดำเนินนโยบายการต่างประเทศโดยร่วมมือกับสหประชาชาติในกิจการระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น การเสริมสร้างสันติภาพและดูแลความสงบในแอฟริกา หรือซูดานใต้ เป็นต้น

"ในอีก 10-15 ปีข้างหน้า จีนมีแนวโน้มจะเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกแทนที่สหรัฐ จีนมีอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองอยู่แล้ว หากใช้นโยบายทางการทูตที่ยอมรับในคุณค่าหรือหลักการของสากล จนทำให้นานาชาติยอมรับ จะทำให้บารมีของจีนเพิ่มมากขึ้นและมีผู้นับถือมากขึ้นในที่สุด แต่หากยังคงใช้แนวทางที่เป็นความคิดของตนเองตามลำพังต่อไป อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้"

นอกจากนี้ ประเด็นสื่ออินเตอร์เน็ตที่พัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็วในจีน ซึ่งล่าสุดมีผู้ที่เข้าถึงและเป็นชาวเน็ตแล้วเกือบ 600 ล้านคน ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสารที่สำคัญอย่างรวดเร็ว ดังนั้น รัฐบาลจีนจึงต้องเท่าทันให้ได้ แม้รัฐบาลพยายามจะเข้าไปจำกัดและควบคุมการแสดงความคิดเห็นของประชาชน แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก รัฐบาลจีนมีหน้าที่ต้องตอบสนองความต้องการของคนในท้องที่ต่างๆ หากไม่ทันท่วงที คนเหล่านั้นจะใช้สื่อออนไลน์แสดงออกถึงความคิดเห็นที่ไม่พอใจรัฐบาล ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจทำให้รัฐบาลจีนไม่สบายใจ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ผู้นำจีนได้มองเห็นและพยายามจะเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมทั้งหาทางใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตให้มากที่สุดเพื่อตอบสนองความคาดหวังของประชาชนจีน

โสภิต หวังวิวัฒนา เรียบเรียง

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
泰国
v ระหว่างบรรทัด:ความท้าทายของรัฐบาลสีจิ้นผิง ในการพัฒนาเศรษฐกิจให้สมดุลกับสิ่งแวดล้อมที่ดี และนโยบายขยายแสนยานุภาพด้านกลาโหมกับการสร้างการยอมรับจากนานาชาติ 2014-03-14 11:56:18
v ระหว่างบรรทัด:ความท้าทาย โอกาสและอุปสรรคของรัฐบาลจีน ในการพัฒนาประเทศ หลังการประชุมสองสภา 2014-03-07 12:09:51
v ระหว่างบรรทัด:กรรมาธิการ การต่างประเทศ วุฒิสภาของไทย เยือนปักกิ่งแจงสถานการณ์ไทยให้กับสภาปรึกษาการเมืองจีน 2014-02-28 16:16:05
v ระหว่างบรรทัด:นักท่องเที่ยวจีน ตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวที่ทั่วโลกต้องการ (ตอนที่ 1) 2014-02-14 13:58:44
v ระหว่างบรรทัด:อั่งเปา ยุคใหม่ แจกผ่านวีแชท ออนไลน์ 2014-02-07 16:11:24
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040