ช่วงหยุดสุดสัปดาห์ต่อเนื่องวันจันทร์ชดเชยเทศกาลเช็งเม้งรวม 3 วันที่เพิ่งผ่านพ้น ข้อมูลสถิติจากไมโครบล็อคทางการรายงานอันดับหนังทำเงินในจีนแผ่นดินใหญ่ระบุว่า รายได้ในช่วงหยุดเช็งเม้งปีนี้เท่ากับ 360 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 28.5 โดยหนังที่โกยเงินได้มากสุดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 70 คือ เรื่องกัปตันอเมริกา : มัจจุราชอหังการ (Captain America: The Winter Soldier) ส่วนหนังจีนที่กวาดรายได้เป็นอันดับหนึ่ง คือ整容日记 (My Plastic Diary)
My Plastic Diary ภาพยนตร์จีนแนวคอมเมดี้
ผลงานสร้างของเฉินเข่อซิน (ปีเตอร์ชาน)
กำกับและเขียนบท: หลินอ้ายหัว นำแสดง: ไป๋ไป่เหอ และจางเหยา
สองดาราสาวนักแสดงนำของเรื่อง ไป๋ไป่เหอ รับบท กัวจิ้ง และจางเหยา รับบท เวยเวย เพื่อนสนิทร่วมมหาวิทยาลัยและร่วมชะตากรรม เกิดมาหน้าตาแย่แถมหุ่นก็แค่อนุบาล ได้ร่วมอุดมการณ์ก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งการผลิบานเป็น "ดอกไม้พลาสติก" ด้วยกัน โดยทุ่มสุดตัวแม้ต้องขายบ้านก็ไม่นึกเสียดาย
ดังนั้น จึงไม่เฉพาะแค่เรื่องศัลยกรรมที่กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกกล่าวถึง เนื้อเรื่องที่สะท้อนความเป็นจริงของสังคมก็ทำให้หลายคนรู้สึกว่าประสบกับตัวด้วยเช่นเดียวกัน "แต่ก่อนมักจะพูดกันนักว่า อย่าตัดสินคนจากรูปกายภายนอก แต่เดี๋ยวนี้ล่ะเป็นไงจะเลื่อนขั้น ไปสมัครงาน หรือแค่จะหาแฟนให้ได้สักคน มีใครที่ไหนจะไม่พิจารณาจากหน้าตาท่าทางกันก่อนบ้าง หน้าตาไม่ดี ก็โดนเขี่ยทิ้งตั้งแต่แว็บแรกที่เห็นแล้ว"
(จากซ้าย) ปีเตอร์ชาน ไป๋ไป่เหอ และหลินอ้ายหัว
สำหรับทัศนคติต่อเรื่องความงามนี้ ผู้กำกับ หลินอ้ายหัว กล่าวว่า แม้หลายคนจะรู้สึกว่าความงามภายในเป็นสิ่งสำคัญ แต่ภายนอกที่งามก็สำคัญมากไม่แพ้กัน เพื่อนเธอหลายคนเจอประสบการณ์กับตัวมาทั้งนั้น ต่างเห็นว่าถ้าหน้าตาไม่ดีทำให้โอกาสดีๆ เข้ามาน้อยตามไปด้วย ดังนั้น หน้าตาดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เดินออกไปไหนก็จะได้ยินคำชมเชย ฟังแล้วก็สบายหูสบายใจไปด้วย
นางเอกของเรื่อง ไป๋ไป่เหอ กล่าวว่าถึงตอนนี้ยังไม่เคยไปศัลยกรรมส่วนใดมาก่อน จึงตรงข้ามกับในเรื่องที่ทำไปขนานใหญ่เลย ทั้งตา จมูก คาง ไปจนถึงอก เธอว่าถ่ายไปชักชินรู้สึกว่าหน้าตาที่ผ่านการเสริมแต่งแล้วสวยกว่าหน้าตัวเองจริงๆ เพราะยอมรับว่าตนไม่ใช่คนสวยคม แต่ถึงอย่างไรก็เชื่อว่าเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด ย่อมมีคนที่ชื่นชมอย่างที่เราเป็น และว่าก็ไม่ปฏิเสธกับการทำศัลยกรรมเพียงเล็กน้อย สิ่งสำคัญคือความพอเหมาะไม่มากเกินควร
กัวจิ้ง สาวหน้าตาบ้านๆ ที่ไปสมัครงานเป็นถูกเมิน
แถมเพื่อนชายยังลดระดับจากขอคบเป็นแฟน เหลือแค่คบฆ่าเวลา
ปีเตอร์ชานผู้กำกับคนดังว่า หลินอ้ายหัวเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์หญิงที่ร่วมงานกันมานานถึง 18 ปี แต่กับเรื่องนี้เขายอมรับว่าเป็นเรื่องที่เธอเขียนได้เอาใจตลาดและสนุกที่สุด และเพราะเธอไม่ค่อยเขียนในแนวนี้นัก ทางเขาและทีมงานจึงเห็นว่าลองให้เธอกำกับดูน่าจะไม่เลว และแม้ว่าตอนแรกเขาเองจะกังวลอยู่บ้างว่าเธอจะถ่ายออกมาเป็นหนังอาร์ตไปหรือเปล่า แต่พอเริ่มถ่ายทำไปไม่นาน ความกังวลต่างๆ เหล่านั้นก็หายไปหมดสิ้น
ส่วนการหยิบยกประเด็นศัลยกรรมมาใช้เขาเห็นว่า เพื่อสะท้อนถึงความไม่ยุติธรรมทางสังคม เพราะมีแต่เพศหญิงที่ต้องไปศัลยกรรมเพื่อจะได้งานที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมให้คนไปทำศัลยกรรม และที่สำคัญคือ ไม่ได้ต้องการตำหนิการทำศัลยกรรมด้วย
คำถามที่ว่า รูปลักษณ์ภายนอกมีผลต่อหน้าที่การงานและความรักมากน้อยแค่ไหนกัน? หนังไม่ได้ให้คำตอบฟันธงไปแน่ชัด ผู้ชมแต่ละคนคงต้องเก็บกลับไปคิดหาคำตอบกันเอาเอง
เดี่ยวเด็ดสะเก็ดหนัง โดย วังฟ้า 羅勇府
ลิงค์ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม :เก่าเล่าไป ใหม่บอกมา:"เปลี่ยนหน้า" ก่อนสมัครงาน เพื่อโอกาสได้งานทำมากขึ้น? http://thai.cri.cn/247/2012/11/27/233s204640.htm