การทูตที่ใช้กีฬาเป็นสื่อ

จีนกับสหรัฐฯ เคยใช้กีฬาปิงปองปูทางให้กับการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ส่วนสหรัฐฯ มักใช้กีฬาเบสบอลเผยแพร่ soft power ของตน

นายหม่า เจิ้นกาง อุปนายกสมาคมการทูตสาธารณะแห่งประเทศจีนกล่าวว่า การใช้กีฬาปิงปองเป็นสื่อในการเปิดประตูประเทศให้กัน เป็นการทูตรูปแบบพิเศษในช่วงสำคัญของประวัติศาสตร์

ปี 1969 นายริชาร์ด นิกสัน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และเริ่มแสดงเจตจำนงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน ฤดูใบไม้ผลิของปี 1971 ขณะสองประเทศกำลังเจรจาเพื่อหาจังหวะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปเยือนจีนโดยอาศัยปากีสถานเป็นสื่อกลาง มีการจัดการแข่งขันปิงปองนานาชาติครั้งที่ 31 ที่เมืองนาโกย่าของญี่ปุ่น ประธานเหมา เจ๋อตงตัดสินใจเชิญทีมปิงปองสหรัฐฯ มาเยือนจีน ถือเป็นที่มาของการทูตปิงปอง ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

เมื่อเดือนมีนาคมปี 2014 นางมิเชล โอบามา สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ เยือนจีน ได้ตีปิงปองกับนักเรียนจีน สื่อสหรัฐฯ รายงานข่าวโดยใช้หัวข้อว่า"สหรัฐ-จีนสืบสานการทูตปิงปอง"

เช่นเดียวกันกับจีน สหรัฐฯ ก็ใช้กีฬาประจำชาติกระชับความสัมพันธ์กับต่างประเทศ วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เมเจอร์ ลีก

ปี 2001 การทูตปิงปองจีน-สหรัฐฯ ครบรอบ 30 ปี นายหลี่ หลันชิง รองนายกรัฐมนตรีจีนกับนายเฮนรี คิสซินเจอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาตีปิงปอง

เบสบอล (Major League Baseball หรือ MLB) ของสหรัฐฯ เริ่มการแข่งขันประจำปี 2014 เป็นการเปิดฉากการทูตเบสบอลเข้าสู่รอบปีใหม่ บล็อกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำจีนระบุว่า ถึงแม้เบสบอลเป็นกีฬาประจำชาติสหรัฐฯ แต่กีฬาประเภทนี้แพร่หลายไม่เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น การผูกสัมพันธไมตรีโดยใช้เบสบอลเป็นสื่อ สะท้อนให้เห็นมนต์เสน่ห์ของกีฬาที่เหนือกว่าพรมแดน สหรัฐฯ ตระหนักถึงอิทธิพลและบทบาทของกีฬาที่มีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยใช้การสื่อสารระหว่างบุคคลเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและด้านอื่นๆ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังเคยส่งดาราเบสบอลหลายคนเคยเดินทางไปต่างประเทศเพื่อช่วยฝึกนักกีฬาเบสบอลและร่วมกิจกรรมกับคนท้องถิ่นด้วย

การพบปะกันแบบส่วนตัวระหว่างผู้นำประเทศ เป็นการทูตอีกรูปแบบหนึ่ง

การพบปะกันแบบส่วนตัวมักเกิดขึ้นระหว่างผู้นำของประเทศที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดี หรือในกรณีที่ต้องการจัดการกับปัญหาด้วยวิธีพิเศษ โดยประเทศตะวันตกมักใช้รูปแบบนี้บ่อยๆ

ปี 2013 การพบปะระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา จัดขึ้นที่ซันนีแลนด์ส (Sunnylands) เมืองแรนโคมิราจ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย รองศาสตราจารย์สุง เหว่ยจากวิทยาลัยการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ในยุคโลกาภิวัตน์ การไปมาหาสู่ระหว่างประมุขหรือมุขบุรุษของประเทศต่างๆ นับวันจะมีบ่อยขึ้น การถือโอกาสวันหยุดเชิญผู้นำต่างประเทศไปพักผ่อนร่วมกัน ค่อยๆ กลายเป็นการทูตอีกรูปแบบหนึ่ง และการสร้างความรับรู้ร่วมกันโดยผ่านการพบปะสังสรรค์อย่างไม่เป็นทางการแบบนี้ สำหรับสหรัฐฯ ถือเป็นการทูตระดับสูงสุด

วันที่ 25 ตุลาคมปี 2002 นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชิญนายเจียง เจ๋อหมิน ประธานาธิบดีจีนและภริยาไปที่บ้านในฟาร์มครอว์ฟอร์ด และจัดบาร์บีคิวเลี้ยงรับรอง นอกจากนี้ ผู้นำสองประเทศยังได้พายเรือในทะเลสาบเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง สื่อมวลชนสหรัฐฯ ถือการพบปะ 1 ชั่วโมงดังกล่าวเป็นวาระสำคัญที่สุดของการพบปะระหว่างผู้นำสองประเทศครั้งนั้น

นอกจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษก็ชอบใช้วิธีนี้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองเช่นกัน ปี 2001 นายโทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกับภริยาพร้อมด้วยลูก 4 คน รับรองประธานาธิบดีจอร์จ บุชและภริยาที่ Prime Minister Manor ครอบครัวหมายเลขหนึ่งของสองประเทศดื่มน้ำชา ทานอาหารและชมการฝึกซ้อมฟุตบอลด้วยกัน ระหว่างคุยกัน ภริยาของนายแบลร์ยังป้อนข้าวให้ลูกชายอายุเพียง 14 เดือนไปด้วย

การพบปะกันแบบส่วนตัวระหว่างผู้นำประเทศ บางทีได้ผลดีกว่าการเยือนอย่างเป็นทางการเสียด้วยซ้ำ เดือนพฤศจิกายนปี 1985 นายโรนัลด์ เรแกน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับนายมิคาอิล เซร์เกเยวิช กอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีโซเวียตเจรจากันในบ้านหลังหนึ่งริมทะเลสาบเจนีวาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ถือเป็นการพบเจรจาครั้งแรกหลังจากความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตกอยู่ในภาวะตึงเครียดมาเป็นเวลานาน 6 ปี เป็นการเปิดฉากกระบวนการสิ้นสุดสงครามเย็น

เดือนกันยายนปี 1978 นายจิมมี่ คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายอันวาร์ เอช ซาดัต ประธานาธิบดีอียิปต์ และนาย

เมนาเฮม เบกิน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล จัดการเจรจาที่แคมป์เดวิดเป็นเวลา 12 วัน แรกๆ อียิปต์กับอิสราเอลถกเถียงกันอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงแคมป์เดวิด ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มีความสำคัญมากทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากได้เปิดประตูสันติภาพตะวันออกกลาง

ดาราเบสบอลสหรัฐฯ สอนเด็กคิวบาเล่นเบสบอล