ตั้งแต่จีนกับประเทศอาเซียนเริ่มเจรจาเรื่องการสร้างเขตการค้าเสรีในปี 2002 เป็นต้นมา การค้าระหว่างสองฝ่ายเพิ่มจาก 54,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2002 เป็น 443,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2013 จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของอาเซียนต่อเนื่องกันมา 5 ปีแล้ว และอาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 3 ของจีน ในปี 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เศรษฐกิจโลกค่อนข้างอ่อนล้า การค้าจีน-อาเซียนจึงกลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจ โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนปี 2014 การค้าระหว่างสองฝ่ายเติบโตในอัตราประมาณ 8%
ปี 2015 จีนกับประเทศอาเซียนตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะพัฒนาการค้าระหว่างกันให้ถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การบรรลุเป้าหมายนี้ ต้องรักษาอัตราเติบโตให้อยู่ที่ระดับ 10% ขึ้นไป
เดือนกันยายนปี 2014 การเจรจาเพื่อยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนให้สูงขึ้นรอบแรกจัดขึ้นที่กรุงฮานอยของเวียดนาม จีนกับประเทศอาเซียนกำลังพยายามเปิดตลาดให้กันและกันมากขึ้น และยกระดับความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะการค้าสินค้า การค้าบริการและการลงทุนที่อิสระเสรีและสะดวกยิ่งขึ้น ตามแผนการที่กำหนดไว้ การยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจะทำแล้วเสร็จภายในปี 2015 ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายจะเข้าสู่ยุคใหม่
การพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดโอกาสให้กับการดำเนินกิจการชำระการค้าระหว่างประเทศด้วยเงินเหยินหมินปี้ ปี 2010 จีนเริ่มทดลองชำระการค้าด้วยเงินเหยินหมินปี้ที่เขตกว่างซี และต่อมาในปี 2013 เปิดเขตทดลองการปฏิรูปทางการเงินที่เขตกว่างซีและมณฑลยูนนาน จนถึงปลายเดือนตุลาคมปี 2014 ยอดการชำระการค้าระหว่างประเทศด้วยเงินเหยินหมินปี้ของเขตกว่างซีมีกว่า 340,000 ล้านหยวน มากที่สุดต่อเนื่องกัน 5 ปีในบรรดา 12 มณฑลและเขตทางภาคตะวันตกและ 8 มณฑลและเขตในพื้นที่ชายแดน