เทศกาลตรุษจีนใกล้จะมาถึงแล้ว การควบคุมและป้องกันอันตรายจากการเบียดเสียดแออัดของฝูงชนในจุดท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ จึงยิ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับการจับตามอง เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุซ้ำรอยโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายช่วงเคาท์ดาวน์รับปีใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ และแน่นอนว่าการสั่งงดจัดกิจกรรมใหญ่ทั้งหมดย่อมไม่ใช่ทางออกที่ดีของปัญหา

ภาพ: "พ่อฮะ เรามาเที่ยวหรือมาดูคนกันฮะ?"

ด้วยเหตุนี้ ในงานประชุมเพื่อจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ โดยสถาบันคุ้มครองแรงงานเทศบาลกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้จัดอภิปรายถึงเทคนิคป้องกันภัยจากการเบียดเสียดหนาแน่นของฝูงชน นายหนีฮุ่ยฮุ่ย รองผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยและบริหารจัดการกรณีฉุกเฉิน ระบุว่า ทางสถาบันได้คิดค้นระบบเตือนภัยความหนาแน่นของมวลชนและติดตั้งจุดตรวจสอบที่ย่านการค้าซีตัน 39 จุด เพื่อป้องกันความปลอดภัยช่วงเทศกาลตรุษจีนมานานร่วม 5 ปีแล้ว

โดยระบบดังกล่าวจะมีการรวบรวมข้อมูลและประมวลผลทางสถิติ จากกล้องจับภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ประกอบกับการวางแผนและเทคโนโลยีการจัดการที่คลอบคลุม คำนวณปริมาณความหนาแน่นของฝูงชน แนวโน้มทิศทางการเคลื่อนย้าย เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างโมเดลจำลองรูปการณ์ได้หลายแบบพร้อมกัน ทำให้สามารถคาดการณ์ปริมาณผู้คนในอีก 30 นาทีข้างหน้า หรือช่วงที่ผู้คนหนาแน่นสูงสุดใน 1 วันข้างหน้า และแม้กระทั่ง 1 สัปดาห์ก็ได้ด้วย

ความหนาแน่นของมวลชนที่สถานีรถไฟ

เพื่อเดินทางกลับบ้านช่วงตรุษจีน

ทั้งนี้ นอกจากซีตันแล้ว ที่เทียนอันเหมิน หรือในเขตท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชื่อดังของปักกิ่งอย่างสือช่าไห่ ต่างก็มีการติดตั้งระบบดังกล่าวเช่นกัน โดยในอนาคตก็จะมีการผลักดันให้ติดตั้งระบบเตือนภัยดังกล่าวให้ครอบคลุมทั่วปักกิ่งมากยิ่งขึ้น ทั้งในย่านการค้าสำคัญอื่นๆ อาทิ หวังฝูจิ่ง หรือชุมทางคมนาคมสำคัญต่างๆ อย่างสถานีรถไฟ หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น และจะมีการทดลองติดตั้งใช้งานนาน 1 ปีใน 30 เขตทั่วประเทศด้วย

เก่าเล่าไปใหม่บอกมา โดย วังฟ้า 羅勇府