ตั้งแต่สมัยโบราณจีนก็ได้ชื่อว่า "เมืองที่มีการแต่งกายอย่างสุภาพ" ในประวัติศาสตร์การพัฒนาอันยาวนานกว่า 5,000 ปีนี้ หมวกเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเกี่ยวพันกับวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนนโยบายของรัฐด้วย แม้ปัจจุบัน หมวกได้กลายเป็นของใช้ส่วนตัวที่มีรูปร่างหลากหลายเพื่อเสริมบุคลิกภาพของผู้ใช้ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สตรีบางคนชอบใส่หมวกในสถานการณ์ที่ต่างกันเพื่อเสริมบุคลิกภาพที่ต่างกัน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดที่ชั้นสามของร้านขายหมวก เซิ่งซีฝู(盛锡福) ซึ่งเป็นร้านขายหมวกยี่ห้อดังและมีประวัติมากว่าร้อยปีในกรุงปักกิ่ง แม้ว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สร้างขึ้นที่ชั้นสามของร้านขายหมวกเซิ่งซีฝูก็ตาม แต่พิพิธภัณฑ์แห่งไม่ใช่ของร้าน แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ระดับชาติ ซึ่งสร้างขึ้นโดยสมาคมธุรกิจหมวก ร้านขายหมวกเซิ่งซีฝู และสมาคมห้างสรรพสินค้าแห่งชาติของจีน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงวัฒนธรรมหมวกแห่งแรกของจีน พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่เลขที่ 57 ของเขตเฉียนหมิน อยู่ชั้นสามของร้านขายหมวกเซิ่งซีฝู มีพื้นที่จัดแสดงไม่ค่อยมาก เมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์อื่นๆ อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดจิ๋ว เพราะมีแค่ร้อยกว่าตารางเมตรเท่านั้น แต่ที่นี่ได้แสดงประวัติศาสตร์และวิวัฒนาของหมวกในช่วงหลายพันปีของจีน
นึกถึงคำพูดที่ว่า สำหรับพิพิธภัณฑ์ ต้องให้สิ่งของแต่ละชิ้นที่จัดแสดงบอกเล่าความเป็นมาของมัน รวมทั้งรายละเอียด เพราะการดำรงอยู่ของมันเสมือนคำบอกเล่าของมันเอง จะได้ภาพแห่งความจริงของอดีตและสามารถอยู่ได้ทนทานนานมากกว่า
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ใช้ภาพวาด ภาพถ่ายและของจริงมาแสดงให้เห็นถึงกระบวนการพัฒนาของหมวกในสมัยโบราณจนกระทั่งถึงปัจจจุบัน นายสวุน ฉงเกา อดีตผู้บริหารของร้านขายหมวกเซิ่งซีฝูกล่าวแนะนำว่า หมวกมีขึ้นเมื่อ4,000 กว่าปีก่อน เริ่มแรกเป็นหนังสัตว์หรือกระดูกสัตว์ ที่สำคัญก็เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของตน ไม่ใช่ว่าเพื่อป้องกันความหนาว อย่างเช่นในภาพฝาผนังสมัยดึกดำบรรพ์หรือหนังภาพยนตร์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของสมัยดึกดำบรรพ์ เราจะเห็นผู้นำของตระกูลชนเผ่าส่วนใหญ่ล้วนใส่หมวกที่ทำด้วยหนังหรือกระดูกสัตว์ จริงๆแล้ว ในจีนสมัยโบราณก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน หมวกเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงชนชั้น แต่ละชนชั้นใส่หมวกไม่เหมือนกัน รวมทั้งการตกแต่งหมวกก็ไม่เหมือนกัน ในจีนสมัยก่อน มีแต่ผู้คนที่มีฐานะหรือเกียรติถึงจะใส่หมวกและเสื้อยาวได้ ส่วนบรรดาชาวบ้านจะใช้ผ้าผืนหนึ่งมาพันศรีษะและใส่เสื้อสั้นๆเท่านั้น บางสมัยราชวงค์ยังไม่ให้ใส่อะไร ดังนั้น จีนมีคำกล่าวว่า ผิงโถวป่ายซิ่ง ซึ่งแปลตรงๆคือ ชาวบ้านที่มีซงผมสั้นๆ ที่พิพิธภัณฑ์ หมวกเก่าที่สุดแห่งนี้ก็คือ หมวกที่ทำจากกระดูกเมื่อ 4,600 กว่าปีก่อน ซึ่งขุดได้จากสุสารแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นหมวกของผู้นำชนเผ่ากลุ่มหนึ่ง ขณะขุดพบ หมวกที่ทำจากกระดูกนี้ก็ยังสวมอยู่บนศีรษะของผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบยังพบว่า หมวกใบนี้ทำด้วยกระดูกหลายอย่างมีทั้งซี่โครง งาและเขาของสัตว์ใหญ่ แต่ละแผ่นล้วนมีรูสองอันเพื่อเชื่อมต่อกัน นักวิจัยสันนิฐานว่า บนกระดูกคงมีหนังสัตว์ปกคลูมด้วย
IN/LJ