แบรนด์จีนก้าวสู่เวทีโลก (1)
  2015-05-11 09:19:09  cri

เมื่อสิ้นปี 2012 ที่งานแสดงสินค้ากว่างโจวครั้งที่ 112 นายโรแมนเจีย ลัวนั่ว ( Romain Jie Luonuo) พ่อค้าชาวอิตาลีตั้งบูธขายหรือให้เช่า

แบรนด์อิตาลีรุ่นเก่าแก่นักธุรกิจจีน และได้ผลที่เกินคาดอย่างมาก ช่วงงาน 15 วัน เขาได้รับการติดต่อจากนักธุรกิจจีนกว่า 800 คน และลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อและเช่าแบรนด์อิตาลีกว่า 100 ราย ซึ่งรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าและกระเป๋า เขากล่าว่า เกือบทุกแบรนด์ล้วนมีคนต้องการ

มีคำเปรียบเทียบสินค้าที่ผลิตในจีน (Made In China) ว่า "ติดโรคกระหายแบรนด์เนม" หลังจากจีนใช้ความพยายามมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก แต่สินค้าที่ส่งออกจากจีนที่มีมูลค่านับหลายล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น เพียงแต่ตีพิมพ์คำว่า เมดอินไชน่า (MADE IN CHINA) แต่กลับไม่มีแบรนด์ของจีนเอง ทำให้นักธุรกิจจีนไม่สามารถทำกำไรได้มากจากการจำหน่ายในตลาด

พร้อมๆ กับเศรษฐกิจจีนเข้สู่ดุลยภาพใหม่ วิสาหกิจและนักธุรกิจจีนมุ่งส่งเสริมการสร้างสรรค์ใหม่และแนวคิดนวตกรรม ผลักดันให้สินค้าที่มีแบรนด์จีนก้าวสู่เวทีโลก

บริษัทหวาเหวย เป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมนิวไฮเทค มีกิจการกระจายอยู่ทั่วโลก นอกจากตั้งสาขาในเมืองหลักเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ยังมีสาขาในเขตไซบีเรียของรัฐเซีย ป่าดิบป่าฝนในอเมริกาใต้ กระทั่งเขตทุรกันดานในแอฟริกา เป็นต้น

กลุ่มบริษัทซานี (SANY GROUP) เป็นวิสากิจผลิตอุปกรณ์เครื่องจักรเครื่องยนต์หนัก จำหน่ายอุปกรณ์ไปในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ตลอดจนเสนออุปกรณ์เครื่องยนต์ช่วยเหลือในเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ เช่นเหตุเหมืองถ่านหินพังถล่มในชีลี ตลอดจนวิกฤตนิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บนเกาะฟูกูชิม่าของญี่ปุ่น เป็นต้น

ที่แอฟริกาใต้ รางรถไฟของบางพื้นที่ใช้ระบบกระแสไฟฟ้าที่ต่างกัน แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาหา โดยกลุ่มบริษัทหนานเชอ (CSR) วิสาหกิจผู้ผลิตรถไฟขนาดใหญ่ของจีน ได้ออกแบบรถไฟโดยเฉพาะที่สามารถวิ่งบนรางรถไฟที่มีระบบกระแสไฟฟ้าที่ต่างกันเหล่านี้ ซึ่งบริษัท CSR นับเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตรถไฟและรถไฟความเร็วสูงของโลก

การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วงกว่า 30 ปีที่ดำเนินนโยบายการปฏิรูปเปิดสู่ภายนอกที่ผ่านมา จีนขยับขึ้นเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ยอดการผลิตของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำคัญ กว่า 200 ชนิดครองอันดับ 1 ของโลก แต่สิทธิบัตรของเทคโนโลยีสำคัญของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นของจีนเอง และไม่ใช่แบรนด์จีนด้วย จึงตกเป็นโรงงานผลิตที่มีกำไรต่ำของโลก

เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2014 นายสี จิ้นผิลประธานาธิบดีจีนเดินทางตรวเยี่ยมที่มณฑลหูหนานภาคกลางของจีนและกล่าวว่า ควรผลักดันให้คำว่าเม็ดอินไชน่าเปลี่ยนไปในทางที่ว่า ประดิษฐ์คิดสร้างในจีน ปรับเปลี่ยนความเร็วของจีนไปสู่ทิศทางคุณภาพของจีน ยกระดับผลิตภัณฑ์จีนให้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์จีน ถือการสร้างแบรนด์จีนเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ

พร้อมๆ กับเมื่อเร็วๆ นี้ ทางการจีนได้ประกาศเอกสาร "เจตนารมณ์และปฏิบัติการร่วมกันสร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมทางบกและเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21" หรือ " 1 แถบ 1 เส้นทาง" ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญแห่งชาติจีน นับเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางใหม่ที่ให้แบรนด์จีนก้าวสู่สากลมากขึ้น

นายเสี้ยง เหวินโป ซีอีโอกลุ่มบริษัทซานี (SANY GROUP) กล่าวว่า " 1 แถบ 1 เส้นทาง" มีสาระสำคัญคือการเชื่อมระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รวมถึงทางหลวง ทางรถไฟ ท่าเรือและสนามบิน เป็นต้น นี่เป็นโอกาสใหม่ใหม่สำหรับวิสากิจผลิตเครื่องยนต์วิศวกรรม โดยจะส่งเสริมให้วิสาหกิจและนักธุรกิจจีนก้าวออกไปขยายตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ กลุ่มบริษัทซานีก็ได้ดำเนินกิจการในประเทศรายทาง " 1 แถบ 1 เส้นทาง" หลายประเทศ จนถึงปัจจุบัน มียอดจำหน่ายกว่า 70% มาจากระเบียงเศรษฐกิจที่ยาวที่สุดของโลกนี้

(In/Lin)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040