เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา นายเกา หู่เฉิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีนกับนายยูน ซังจิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม การค้าและทรัพยากรเกาหลีใต้ เป็นผู้แทนรัฐบาลสองประเทศ ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการค้าเสรีระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐเกาหลีที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ นับเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่คลอบคลุมกว้างขวางที่สุดและมีมูลค่าสูงสุดของจีนในปัจจุบัน เป็นข้อตกลงที่มีเอกลักษณ์ อำนวยประโยชน์ต่อกันเพื่อบรรลุผลสำเร็วร่วมกันระหว่างสองประเทศ จะทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างสองประเทศมีความสมดุล รอบด้านและมีระดับสูง

ตามข้อตกลง การค้าระหว่างสองประเทศกว่า 90% มีภาษีอากรเป็นศูนย์ ซึ่งครอบคลุมการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุนรวม 17 สาขา อาทิ อี-คอมเมิร์ช นโยบายการแข่งขัน การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ภาวะแวดล้อมเป็นต้น ซึ่งเป็นประเด็นหลักของเศรษฐกิจการค้าในศตวรรษที่ 21 ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายยังรับรองว่า หลังข้อตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว สองฝ่ายยังจะจัดการเจรจาด้านบริการเกี่ยวกับของเขตที่ต้องจำกัด และจะจัดการเจรจาการลงทุนเพื่อให้นักลงทุนของอีกฝ่ายได้รับสิทธิเสมือนนักลงทุนในประเทศและการลงทุนในขอบเขตที่ต้องห้อม

นายไป๋ หมิง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดโลกสถาบันเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าโลกกระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่า ข้อตกลงการค้าเสรีจีนเกาหลีใต้เป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มีมูลค่าสูงสุดของจีนในปัจจุบัน ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะด้านการค้าเท่านั้น หากยังครอบคลุมการบริการ การลงทุน อี-คอเมิร์ช ภาวะแวดล้อมเป็นต้น ทำให้การผลิตระหว่างจีนกับเกาหลีใต้มีลักษณะเกื้อกูลกัน และทำให้การผลิตของจีนกับเกาหลีใต้มีความได้เปรียบในการพัฒนาของโลกในอนาคต

ภาคเอกชนของจีนกับเกาหลีใต้เริ่มหารือการค้าเสรีตั้งแต่เมื่อปี 2005 เดือนพฤษภาคมปี 2012 จีนกับเกาหลีใต้ได้เริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการ จนถึงปัจจุบัน ได้เจรจากัน 14 รอบ จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ และเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าใหญ่อันดับที่สามของจีน งานวิจัยระบุว่า ถ้าข้อตกลงการค้าเสรีจีนเกาหลีใต้เริ่มบังคับใช้ จะขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเป็นร้อยละ 1-2 สำหรับเกาหลีใต้อาจเป็นร้อยละ 2-3

In/LJ