ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 38 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ที่จัดขึ้นที่กรุงโดฮาเมืองหลวงกาตาร์นั้น จีน คาซัคสถานและคีร์กีสถานร่วมกันเสนอให้เส้นทางสายไหมเป็นมรดกโลกด้วยความสำเร็จ นับเป็นมรดกโลกข้ามชาติที่จีนมีส่วนร่วมรายแรก
เส้นทางสายไหมรวมถึงโบราณสถาน 33 แห่งใน 3 ประเทศดังกล่าว ส่วนที่ยู่ในจีนมีกว่า 20 แห่ง กระจายตามมณฑลส่านซี เหอหนาน กันซู่และเขตปกครองตนเองซินเจียง
ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์เค่อเจอเอ่อเมืองไป้เฉิงซินเจียง
ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์เค่อเจอเอ่ออยู่ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองไป้เฉิงเขตปกครองตนเองซินเจียง 60 กิโลเมตร เริ่มสร้างในสมัยราชวงศ์ถังราว 1 พันกว่าปีก่อน เคยถูกทำลายจากสงคราม 4 ครั้ง และมีการบูรณะอย่างต่อเนื่องจนถึงสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของสมัยโบราณจีน ปัจจุบัน ถ้ำพระพุทธรูปพันองค์เค่อเจอเอ่อมีถ้ำประมาณ 236 ถ้ำ ภาพผนังกว่า 10,000 ตารางเมตร
ลานด้านหน้าของถ้ำมีรูปปั้นของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณ จิวโหมวหลัวสือ พระสงฆ์รูปนี้เกิดที่ก๊กชิวฉือ คุณแม่ของท่านเป็นน้องสาวของกษัตริย์ชิวฉือ ตอนอายุ 7 ขวบก็ตามแม่ไปอินเดีย และได้มีโอกาสศึกษาพระคัมภีร์พุทธศาสนา ตอนอายุ 12 ขวบก็กลับบ้านตามคุณแม่ กษัตริย์ชิวฉือทรงนับถือศาสนาพุทธ เมื่อได้ข่าวนี้ทรงดีพระทัย จึงให้พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณจิวโหมวหลัวสือตระเวนบรรยายคัมภีร์ตามก๊กต่างๆ
ค.ศ. 401พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณจิวโหมวหลัวสือเดินทางมาถึงเมืองฉางอาน ได้รับการต้อนรับจากกษัตริย์และชาวบ้าน ท่านจึงจำวัดอยู่ที่กรุงฉางอาน เผยแพร่พระธรรมคำสอนตามคัมภีร์พุทธศาสนาแก่ชาวบ้านทั่วไป และแปลคำภีร์ที่นำมาจากอินเดียทั้งหมด 384 เล่ม จนได้ชื่อว่า เป็น 1 ใน 3 นักแปลคำภีร์พุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของจีน ซึ่งอีก 2 ท่านคือพระถัง ซัมจั๋งและพระจื๋อตี้