สาวยูนนานบอกว่าเงื่อนไขของทางร้านคือคุณสามารถทานได้ไม่อั้น "แต่" หากจะสั่งเพิ่มนั้นคุณ "ต้อง" ทานจานที่สั่งมาก่อนหน้าให้หมดก่อน ยกตัวอย่างเช่น สั่งลูกชิ้นปลาก็ต้องดื่มด่ำกับลูกชิ้นปลาให้หมดทุกชิ้นจึงจะเรียกบริกรไปนำลูกชิ้นปลาจานถัดไปมาให้ เงื่อนไขนี้แม้จะรู้สึกเอะใจแต่ก็ยอมปล่อยผ่าน แต่ครับ! เงื่อนไขที่สองตามมาติด ๆ "หากคุณอยากทานทุกอย่างในเมนู ราคาจะอยู่ที่ 185 หยวนต่อหัว" ทีนี้งงเป็นไก่ตาแตกเลย ราคาได้ไต่ระดับขึ้นไปเกือบจะแตะหนึ่งพันบาทไทยเรียบร้อยแล้ว ผมจึงให้เพื่อนถามว่าแล้ว 135 จะเหลืออะไรบ้าง สาวยูนนานตอบมาว่า "ก็จะเหลือลูกชิ้น เนื้อปลาดุกแร่ หอยเชลล์ กุ้ง และผักเครื่องเคียง" เข้าใจอาการน้ำตาตกในก็วันนี้ ความฝันที่จะได้ทานเหล่าเนื้อตระกูลหมู่ ไก่ ดับสิ้น แต่ไม่เป็นไร ยังมีกุ้งเหลือเป็นตัวชูโรง จากภาพก็ดูเคื่องดีอยู่ ผมคิดในใจจะล่อกุ้งให้หมดร้านเลย
5 นาทีหลังจากนั้น บริกรค่อย ๆ เคลื่อนชามเนื้อรวมมิตรวางลงอย่างช้า ๆ "เสมือนท้องฟ้า วิปริต แปรปรวน ทันใด อังกอร์! กุ้งพระเอกของผมกลายเป็นตัวประกอบไปเสียอย่างนั้น นี่มันกุ้งฝอยชัด ๆ" ผมหันหน้าไปสบสายตากับคุณอินทนิลด้วยความเข้าใจตรงกันว่า ชีวิตนี้ขอลาขาดกับร้านนี้ถาวร
จริง ๆ แล้วร้านอาหารในปักกิ่งอร่อย ๆ มีมากมายครับ ที่เล่าสู่กันฟังในวันนี้เพราะอยากให้เห็นว่าผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นี่ตกเป็นเหยื่อให้กับการโฆษณาได้ง่าย ๆ แม้จะมีรีวิวคนที่เคยมาทานแล้ว เราก็แน่ใจไม่ได้ว่ารับเงินมาพูดหรือเปล่า ในความจริงอาจมีความเท็จ ในความเท็จอาจจะไม่จริงเสมอไป คุณผู้อ่านท่านใดจะไปจะมาปักกิ่งก็อย่าลืมทำการบ้านมาดี ๆ นะครับ