ข้อเสียของการเลือกนั่งรถไฟพาลูกหลานไปเที่ยว
การนั่งรถไฟจะต้องยกแบกกระเป๋ากันเอง ไม่เหมือนนั่งเครื่องบินที่สามารถโหลดกระเป๋าใบโตไปได้ ซึ่งสถานีรถไฟส่วนใหญ่มีขั้นบันไดต้องเดินขึ้นลงกันมาก ดังนั้น การหอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ขึ้นลงจึงลำบากมาก นอกจากนี้ หากต้องนั่งรถไฟระยะทางยาวข้ามวันข้ามคืน แม้จะมีแอร์แต่เพราะเปิดหน้าต่างไม่ได้ อากาศในตู้รถจึงไม่ถ่ายเทไม่ดีเท่าที่ควร
แต่ถึงอย่างไรข้อดีก็มีมากกว่า เช่น
1.เด็กส่วนใหญ่มักจะชอบการนั่งรถไฟ เพราะจะได้เห็นวิวเปลี่ยนแปลงตลอดสองข้างทาง เช่น ภูเขา ที่ราบ ชนบท ทุ่งหญ้า หรือต้นไม้แปลกๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้เด็กๆ ได้เปิดหูเปิดตา ไม่เหมือนนั่งเครื่องบิน
2.รถไฟส่วนใหญ่จะตรงเวลา ไม่เหมือนเครื่องบินที่มักมีปัญหาเครื่องดีเลย์บ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน
3.เสียเวลารอขึ้นรถไฟสั้นกว่า และยิ่งถ้าเดินทางวันธรรมดาไม่ใช่วันหยุดยาว เราเพียงเดินทางถึงสถานีรถไฟก่อนออกเดินรถครึ่งชั่วโมงก็พอ ไม่เหมือนเครื่องบินที่ต้องเดินทางถึงสนามบินก่อนเครื่องบินออกเดินทาง 3 ชั่วโมง
4.พื้นที่ภายในรถจะกว้างใหญ่กว่าบนเครื่องบินและรถยนต์ ทำให้เด็กหรือผู้สูงอายุสะดวกกว่าในการลุกนั่ง
5.สถานีรถไฟส่วนใหญ่อยู่ใจกลางเมือง ดังนั้น ลงรถไฟแล้วไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก
6.เด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 120 ซม. ไม่ต้องซื้อตั๋ว ทำให้ประหยัดเงินมากกว่า
ก่อนออกเดินทางควรเตรียมความพร้อมดังนี้
1)การเลือกเที่ยวขบวนรถ
a.ใช้เวลาเดินทางยิ่งสั้นยิ่งดี
b.เลือกนั่งขบวนที่เดินทางถึงเป้าหมายปลายทางโดยตรง เพราะการเปลี่ยนต่อรถจะเพิ่มความลำบากให้กับเด็กและผู้ปกครอง
c.อย่าลืมว่าตั๋วตู้นอนพิเศษจะมีราคาพอๆ กับตั๋วเครื่องบิน ดังนั้น ถ้าอยากจะประหยัดเงินควรจองตั๋วตู้นอนธรรมดา แต่สำหรับการเดินทางระยะสั้น ที่นั่งพิเศษมักจะแพงกว่าที่นั่งธรรมดาไม่มากนัก ดังนั้น อาจพิจารณาซื้อตั๋วที่นั่งพิเศษได้
d.ถ้านั่งรถไฟที่ต้องเดินทางข้ามวันข้ามคืน ควรซื้อตั๋วรถไฟที่ออกเดินทางตอนบ่าย และเลือกเที่ยวที่ใช้เวลาเดินทางตอนกลางวันสั้นกว่า เพราะเด็กจะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่นอนหลับไปบนรถไฟตอนช่วงกลางคืน
Yim/kt