ความที่สายการบินไชน่าอิสเทิร์น สายการบินยักษ์ใหญ่สุดของจีนให้น้ำหนักเป็นพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังประเทศที่คนจีนนิยมไปช้อปปิ้ง ประเทศไทยก็ติดข่ายนั้นด้วย น้ำหนักกระเป๋าหรือสิ่งของที่โหลดใต้เครื่องเพิ่มจากเดิม 1 ชิ้นไม่เกิน 23 กิโลกรัมมาเป็น 2 ชิ้นแต่ละชิ้นไม่เกิน 23 กิโลกรัมเพิ่มน้ำหนักให้เท่าตัวทำให้ขาช้อปชอบไปตาม ๆ กัน ดิฉันใช้บริการครั้งแรกก็ประทับใจเลยต้องมีครั้งต่อมา ล่าสุดซื้อตั๋วชั้นประหยัดจากปักกิ่งไปกรุงเทพฯแต่ขากลับทางสายการบินอัพให้เป็นชั้นธุรกิจโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ทำให้น้ำหนักสัมภาระที่โหลดใต้เครื่องได้ถึง 64 กิโลกรัม โดยให้กระเป๋าสองใบ ๆ ละไม่เกิน 32 กิโลกรัม ได้น้ำหนักขนาดนี้มีหรือที่ฉายาเกวียนตาแก้วอย่างดิฉันจะไม่ปลื้ม ข้าวสารหอมมะลิ 10 กิโลกรัมและสารพัดของกินจึงถูกบรรจุเข้าไป เพราะเรากลับมาถึงปักกิ่งช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคม ซึ่งยังเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ตลาดร้านค้าที่นี่เขาพากันปิด 10 – 15 วัน แม้ซุเปอร์มาเก็ตจะเปิดแต่พวกผักก็มีไม่กี่ชนิดราคาแพงกว่าปกติแถมไม่ค่อยสดใหม่ ตามธรรมดาคนที่ไม่ไปเที่ยวไหนต้องตุนอาหารไว้หลายวัน เมื่อได้น้ำหนักขนาดนี้เลยตุนอาหารมาจากไทย ข้าวโพดอ่อนนึ่งมา 3 กิโลกรัม หน่อไม้ต้มมา 2 กิโลกรัม เหตที่ต้องนึ่งต้องต้มเพราะถ้าถูกเรียกตรวจเจอผักผลไม้สดเจ้าหน้าที่ยึดแน่ แต่ถ้าเป็นผักที่นึ่งแล้วต้มแล้วจากประสบการณ์จะไม่ถูกยึด
วันนั้นที่สนามบินานาชาติโสว่ตูคนน้อยกว่าปกติ เข้าใจว่าคนจีนส่วนใหญ่คงเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังไม่กลับเข้ามา พอรถโดยสารประจำทางที่วิ่งระหว่างสนามบินกับจุดหมายปลายทางต่าง ๆ วิ่งพ้นสนามบินออกมาเท่านั้นก็เห็นท้องถนนโล่งผิดปกติแทบไม่มีรถ กิจการร้านโรงสองข้างทางปิดกันเกือบหมด แม้แต่ผู้โดยสารขาเข้าปักกิ่งที่นั่งมาในรถบัสปกติจะเกือบเต็มคันแต่นี่มีเพียง 5 คน เมื่อถึงจุดหมายปลายทางดิฉันเก้งก้างกับกระเป๋าขนาดยักษ์ 2 ใบ แถมแฮนด์แบ็กอีก 1 ใบถูลู่ถูกังขวาง ๆ รี ๆ จะเรียกแท็กซี่รออยู่นานก็ไม่มีผ่านมา ในที่สุดตัดสินใจลากกระเป๋า เพราะระยะทางจากจุดที่รถจอดกับที่พักห่างกันแค่ประมาณ 500 เมตร ถู่ลู่ถูกังมาได้ประมาณ 200 เมตร มีสุภาพสตรีจีนวัยกว่า 60 ปี ขับรถแบบสามล้อเล็กผ่านมา เธอเอื้ออารีมากขันอาสาขนกระเป๋าไปส่งให้ เราสองคนยักแย่ยักยันช่วยกันยกกระเป๋าใบหนึ่งไว้ที่หลังคารถ ใบที่ 2 ไว้ตรงที่นั่งผู้โดยสารและใบที่สามวางซ้อนจนเต็มเพราะรถคันเล็กนิดเดียว เอาของขึ้นรถเสร็จดิฉันก็วิ่งเพื่อจะได้มาถึงจุดหมายก่อนหรือพอ ๆ กับที่รถสามล้อจะขนกระเป๋ามาถึง คนขับบอกดิฉันว่าไม่ต้องรีบ ๆ โดยตัวเธอเองก็พยายามขับรถช้า ๆ พอมาถึงที่หมายก็จอดรถแล้วกระวีกระวาดช่วยขนกระเป๋าลงมา ถามว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ เธอบอกไม่ต้อง เธอต้องการช่วยจริง ๆ เธอมีความสุขที่ได้ช่วยคน เธอไม่ใช่คนขี่สามล้อรับจ้าง เธอเพียงใช้รถดังกล่าวเป็นพาหนะเดินทางไปซื้อของบ้าง ขับไปเที่ยวไปทำธุระใกล้ ๆ บ้างเท่านั้น ดิฉันยกมือไหว้ขอบคุณ เธอเลยรู้ว่าเราเป็นคนไทย ไหว้แบบนี้ต้องเป็นคนไทยแน่ ๆ เธอเคยมาเที่ยวไทยและประทับใจคนไทยมาก เธอว่าคนไทยใจดี ดิฉันก็บอกเธอว่าคนจีนก็ใจดี วันนี้ยิ่งประจักษ์ว่าคนจีนใจดีมาก ๆ คุณเป็นคนใจดีมาก ๆ ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอบคุณอีก 2 – 3 ครั้ง ก่อนที่จะลาจากกัน
เช้าวันรุ่งขึ้นดิฉันไปสำรวจตลาดเล็กตลาดใหญ่ในย่านที่ไม่ไกลจากที่พัก ปรากฏว่าพากันปิดหมด จึงไปยังหย่งฮุย ซุเปอร์มาเก็ตสัญชาติจีน ปรากฏว่าที่นี่ในโซนจำหน่ายผักและผลไม้คนแน่น โดยเฉพาะผักถึงขั้นเบียดเสียดแย่งกันเลย คุณป้าคนหนึ่งเบียดเข้าไปในจุดที่จะเอื้อมมือหยิบผักต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าหันมาถามดิฉันว่าจะเอาอะไรแล้วจัดการหยิบมาให้ด้วย ใจดีจริง ๆ ปีนี้มีผักหลายชนิดแถมสดใหม่กว่าปีก่อน ๆ แต่แน่นอนราคาแพงกว่าปกติ มีผู้คนที่เลือกผักใส่ถุงเข้าแถวรอชั่ง 2 แถวยาวเหยียด ขณะที่รอก็ไปพึงพอใจกับมันฝรั่งที่อยู่ในรถเข็นของลุงคนหนึ่งที่เข้าคิวรอชั่งต่อจากดิฉัน มันฝรั่งหัวกำลังเหมาะถามคุณลุงว่าแพงไหม คุณลุงบอกว่าชั่งละ1.49 หยวนไม่แพงมากชักอยากได้ แต่ไม่กล้าทิ้งคิวกลัวต้องไปต่อใหม่อีกยาว คุณลุงคงสังเกตว่าเราอยากได้ถามว่าต้องการกี่หัวแล้วขันอาสาไปเลือกให้ ดิฉันขอบคุณและบอกไม่เป็นไรขอฝากคิวคุณลุงไว้เท่านั้น คุณลุงรับปาก ดิฉันจึงวิ่งไปเลือกและกลับมาเข้าคิวต่อ นี่คือความมีน้ำใจของคนจีนที่ดิฉันสัมผัสได้ในช่วงวันสองวันนี้
ตลอดช่วง 10 ปีที่อยู่ในจีนบอกได้เลยว่าคนจีนส่วนใหญ่มีน้ำใจโดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเป็นคนไทยยิ่งให้ความเป็นกันเอง พวกเขาจะยกมือไหว้เพราะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมไทยที่ทักท้ายด้วยการไหว้แถมจำนวนไม่น้อยยังต่อด้วยคำว่าสวัสดีครับสวัสดีค่ะ เห็นแล้วเป็นปลื้มทุกครั้งที่เขาจดจำและแสดงออกซึ่งวัฒนธรรมไทย เกือบร้อยทั้งร้อยของคนจีนที่รู้จักและเคยมาเที่ยวไทยจะบอกว่าคนไทยใจดี ความมีน้ำใจของคนไทยทำให้เขาอยากแสดงความมีน้ำใจกับคนไทยด้วย เหมือนกับว่าเราไปบ้านเขาเขามีน้ำใจ เขามาบ้านเราเราก็มีน้ำใจช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปเท่าที่เราทำได้ ความมีน้ำใจจึงเป็นสายใยอันดีที่จะสานสัมพันธ์จีนไทยให้แนบแน่นยิ่งขึ้นตลอดไป.
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------