นับจากวันตรุษจีนไป 15 วันหรือวันพระจันทร์เต็มดวงครั้งแรกหลังปีใหม่จีนเป็นวันเทศกาลหยวนเซียวหรือเทศกาลโคมไฟอันถือเป็นการสิ้นสุดของช่วงเทศกาลตรุษจีน ก่อนหน้าวันนี้จะมาถึงตั้งแต่ช่วงก่อนส่งท้ายปีเก่าหรือก่อนตรุษจีน ตามบ้านเรือนอาคารสถานที่ต่าง ๆ ในจีนจะมีการตกแต่งประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงหลากหลายชนิดหลายขนาด มีโคมไฟที่ทำเป็นรูปทรงกลมยาวรี ทรงกลมโดยมักจะมีพู่สีแดงหรือสีเหลืองห้อยระย้า ตัวโคมที่เดิมมักจะทำจากกระดาษกับผ้า ปีนี้มาแนวใหม่เป็นโคมไฟที่ทำจากพลาสติกจำนวนไม่น้อย ซึ่งข้อดีคือแม้ประดับอยู่กลางแดดกลางฝนเป็นเวลานับเดือนแต่สีไม่ซีด ตัวโคมไม่ฟีบไม่บุบบี้เสียทรง แถมในบางแห่งยังมีการนำโคมไฟที่ทำจากพลาสติกมาเสียบติดกันในแนวตั้ง 5 ดวง หน้าตาเหมือนถังหูลู่ หรือผลไม้เสียบไม้แล้วนำไปเคลือบน้ำตาล อันเป็นของกินเล่นยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูใบไม้ผลิ(ถ้าทำในหน้าร้อนน้ำตาลที่เคลือบไว้จะไม่คงตัวอยู่นาน) โดยเฉพาะถังหูลู่ที่ทำจากซันจากหน้าตาเหมือนโคมไฟที่เรียงในแนวตั้งนี้มาก คนคิดคนออกแบบช่างนำเอาจุดเด่น ๆ ของวัฒนธรรมมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
เทศกาลโคมไฟหรือเทศกาลหยวนเซียวนอกจากจะมีการประดับโคมไฟสวย ๆ แทบทุกบ้านทุกสถานที่แล้วยังมีประเพณีกินบัวลอยด้วย บัวลอยที่นี่ขนาดเท่าบัวลอยใส้ขิงในบ้านเราเป็นทั้งที่มีใส้และไม่มีใส้ บัวลอยที่มีใส้ก็มีใส้หลายชนิดทั้งหวานอย่างเดียว หวานอมเปรี้ยว หวานมัน โดยทั่วไปจะนำบัวลอยมาต้มให้สุกให้มีน้ำเย็นธรรมดาหล่ออยู่เล็กน้อยป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยซึ่งทำจากแป้งข้าวเหนียวติดกัน ไม่ได้ใช้น้ำบัวลอยที่เป็นน้ำเชื่อมใสหรือน้ำกะทิแบบบ้านเรา ชาวจีนเชื่อว่ารูปร่างกลม ๆ ของบัวลอย และชามกลมๆที่ใส่บัวลอยเป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวของคนในครอบครัว การกินบัวลอยจะนำมาซึ่งความสุขและโชคดีในปีใหม่
เต้าเซียงชุน ร้านขายขนมเปี๊ยะเจ้าดั้งเดิมของปักกิ่งที่เปิดมากว่า 100 ปี นอกจากขนมเปี๊ยะแล้วบัวลอยจากร้านนี้ที่มีสาขาอยู่โดยทั่วไปก็ขายดิบขายดี ก่อนถึงวันเทศกาลประมาณ 3 สัปดาห์ก็เห็นผู้คนมาเข้าคิวคดเคี้ยวยาวเหยียดแต่เช้าตรู่ตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน ประเพณีการรับประทานบัวลอยในวันเทศกาลหยวนเซียวไม่ได้จางหายไปตามกาลเวลาหรือการพัฒนาของประเทศที่เปิดกว้างในทุกด้านโดยเฉพาะการรับเอาวัฒนธรรมอาหารการกินจากทั่วโลกเข้ามาจนมีภัตตาคารร้านค้าและอาหารการกินจากทั่วโลกมาเปิดกิจการอยู่ทั่วประเทศจีน แต่คนจีนยังยึดมั่นในวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาไว้เป็นอย่างดี เรียกว่าของใหม่ก็รับได้ของเก่าก็อนุรักษ์เอาไว้ ไม่ได้มองว่าของเก่าเป็นของล้าสมัยคร่ำครึ จึงไม่แปลกที่ประเทศจีนจะสามารถนำเอาวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล คิดกันง่าย ๆ เงินที่สะพัดในช่วงเทศกาลนี้เทศกาลเดียวเฉพาะในส่วนของการจำหน่ายโคมไฟและการจำหน่ายบัวลอยก็มหาศาลยังไม่รวมค่าเข้าวัด สวน และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
วันเทศกาลหยวนเซียวปีนี้เป็นวันเสาร์แถมตรงกับวันมาฆบูชาวันสำคัญทางพุทธศาสนา วัดหลิงกวงแน่นเอี๊ยดไปด้วยผู้คนตั้งแต่ช่วงวัดเปิดจนวัดปิด วันพิเศษอย่างนี้รถเมล์ทุกสายที่จะไปถึงวัดแน่นขนัดด้วยผู้คนเบียดกันเสียจนป้ายระหว่างทางแทบจะรับผู้โดยสารเพิ่มไม่ได้และรถก็ไม่สามารถวิ่งเข้าไปถึงสถานีปลายทางที่เกือบถึงทางเข้าหน้าวัดได้ ทุกคนจะต้องลงเดินกันเกือบสองกิโลเมตรแต่ไม่มีใครท้อ ทั้งผู้ใหญ่และลูกเด็กเล็กแดงไม่เห็นงอแงมีแต่ความสุข คิวซื้อตั๋วเข้าวัดแน่นขนัดจนต้องเพิ่มช่องพิเศษ เมื่อพ้นจุดตรวจตั๋วทุกคนจะต้องเอาสัมภาระส่วนตัวผ่านเครื่องสแกน คนที่จะเข้าไปก็จะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจละเอียดเกือบเหมือนที่สนามบินยังไงยังงั้น ผ่านจากจุดนี้คลื่นมหาชนต้องไปเข้าคิวยาวเบียดกันแน่นในช่องทางขึ้นผ่านจากทางขึ้นจะเป็นลานกว้างจุดนี้ถ้าเป็นวันพิเศษอย่างวันนี้เขาจะตั้งเหล็กกั้นอีก 10แถวซึ่งดิฉันมักเรียกว่าเขาวงกตเพื่อค่อย ๆ ระบายคนขึ้นไปในวัดไม่ให้คนไปอัดแน่นอยู่ในลานวัด พ้นจากจุดนี้จะขึ้นบันไดและเมื่อขึ้นถึงลานวัดชั้นในก็ยังมีเหล็กกั้นเป็นแถวเพื่อให้คนเดินตามทาง ผู้ที่หวังจะใช้ทางอื่นขึ้นวัดจะไม่มีสิทธิ์เพราะเขาปิดหมดทุกทางให้ใช้ทางเดียว ดิฉันกับเพื่อนคาดว่ากว่าเราจะถึงวัดข้างในคงเลยเที่ยงจึงฝากเจ้าหน้าที่ของวัดให้ช่วยนำผลไม้อันมีกล้อยหอม 1 หวี แอปเปิ้ลและส้มช่วยนำขึ้นไปถวายแทน วันนั้นนอกจากวัดหลิงกวงจะแน่นไปด้วยผู้คนที่ไปไหว้พระขอพรแล้วตามวัดที่อยู่ใกล้ ๆ และในสวนปาต้าชู่ต่างเต็มไปด้วยคนเพราะนอกจากจะเป็นวันสำคัญแล้วยังเป็นวันที่อากาศดีสุด ๆ แดดจ้าฟ้าใสใคร ๆ จึงยิ่งพากันออกจากบ้าน ขากลับเราต้องเดินออกมาถามเจ้าหน้าที่ที่ท่ารถได้ข้อมูลว่าวันนี้รถแทบทุกสายไม่สามารถวิ่งมาจนถึงท่ารถที่เป็นสถานีปลายทางนี้ได้ต้องเดินออกมาจากวัดถึงจุดที่เราหารถแท็กซี่ได้ประมาณ 4 กิโลเมตรคนที่ขับรถไปเองก็จอดรถไว้ไกล ๆ แล้วพากันเดิน เดินและเดินโดยที่ไม่มีเสียงบ่นจากใครให้ได้ยิน ดูทุกคนจะมีความสุขกับการมาทำบุญมาไหว้พระเอามาก ๆ ขณะที่คลื่นมหาชนฝั่งหนึ่งเดินออกอีกฝั่งหนึ่งเดินเข้า ได้ข่าวจากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นอย่างนี้ตลอดทั้งวัน คนจีนหันหน้าเข้าหาวัดกันมากจริง ๆ ความสงบทางจิตใจเป็นสิ่งที่ต้องใฝ่หาและปฏิบัติด้วยตัวเอง เมื่อใจสงบความเป็นสิริมงคลต่าง ๆ ย่อมจะบังเกิดขึ้นตามมา หยวนเซียวปีนี้จึงไม่ใช่แค่การกินบัวลอยและชมโคมไฟธรรมดาเท่านั้น .
-------------------------------------------------------------------------------------------------------