1
เมื่อพร้อมแล้วก็เดินหาโซนจำหน่ายตั๋วก่อนเลยครับ พนักงานที่นี่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง ก็บอกเธอไปเลยครับว่าจะไปเทียนจินรอบต่อไป เธอก็จะถามย้ำว่าเวลานี้นะจ๊ะ? ค่าโดยสารเท่านี้จ้ะ? คุณผู้อ่านก็ยื่นพาสปอร์ตพร้อมกับเงินสดไปให้เธอครับ สนนราคาต่อเที่ยวที่ 54.5 หยวน การทำธุรกรรมการเงินก็เป็นอันเสร็จ ตั๋วจะระบุหมายเลขชานชาลาไว้มุมบนขวา ระบุสถานีต้นทางสู่ปลายทางโดยมีภาษาอังกฤษกำกับในบรรทัดถัดมา ตามด้วยปี เดือน วัน เวลา หมายเลขของตู้รถไฟ และหมายเลขที่นั่งตามลำดับครับ หน้าที่เราต่อจากนี้คือมองบนเลยครับ มองไปด้านบนหาว่าป้ายชานชาลาที่ตรงกับมุมขวาบนของตั๋วเราเขาชี้ให้ไปทางไหน ก็เดินตามไปเรื่อย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ว่าใครจะไปไหนก็ต้องผ่านจุดตรวจสัมภาระไปพร้อมกันก่อน ตรงนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรครับ ดังนั้นแนะนำให้เผื่อเวลาสัก 20 นาทีเป็นอย่างน้อยหลังซื้อตั๋วจนถึงก่อนรถออกนะครับ
หลังจากที่หลุดจุดตรวจแล้วเราก็ต้องขึ้นบันไดเลื่อนยาว ๆ มาชั้นบน ถึงตรงนี้ก็มองบนอีกรอบครับ จะมีจอ LCD ขนาดยักษ์ระบุสถานะเที่ยวรถไฟว่ามาถึงหรือยัง เราสามารถเข้าไปนั่งแล้วได้หรือเปล่า หรือยังต้องรอที่โถงผู้โดยสารเสียก่อน ชั้นบนของสถานีรถไฟความเร็วสูงสายใต้แห่งนี้ด้านซ้ายและขวาจะมีหมายเลขชานชาลากำกับไว้ครับ แยกชั้นที่นั่งไว้เหมือนสนามบินยังไงยังงั้น ชั้นประหยัดไปทาง ชั้นธุรกิจไปทาง พอถึงชานชาลาเป้าหมายก็ยื่นตั๋วกับพาสปอร์ตให้พนักงานอีกรอบครับ เขาก็จะเปิดทางให้เราลงบันไดเลื่อนไปขึ้นรถไฟความเร็วสูง อ่านถึงตรงนี้อาจจะรู้สึกว่าทำไมมัน "เยอะ" จริง ๆ แต่เพื่อแลกกับความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในการจัดการกับพลเมืองประเทศเขาที่มีเป็นพันล้านคนก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้นะครับ
หากคุณผู้อ่านคนไหนเคยใช้บริการรถไฟชินคันเซนของญี่ปุ่นมาแล้ว ผังที่นั่งของรถไฟความเร็วสูงสายปักกิ่ง-เทียนจินก็มีลักษณะคล้ายกันครับ คือจะมีการจัดเรียงที่นั่งแบบ 3-2 คือฝั่งซ้ายติดกัน 3 ที่นั่ง ฝั่งขวาเป็นที่นั่งคู่ ระหว่างขบวนก็จะมีห้องน้ำสะอาดและเคาเตอร์บริการอาหารเครื่องดื่มคั่นไว้เสมอ ความตรงต่อเวลาของขบวนรถไฟจีนก็ไม่เป็นสองรองใครครับ อันที่จริงเมื่อเทียบระหว่างเวลารถออกกับเวลาที่ระบุบนตั๋วแล้ว ผมรู้สึกว่าเขาจะปิดประตูรถไฟเร็วกว่าเสียอีก
ไม่ทันจะได้ทำอะไรทั้งนั้นก็เดินทางมาถึงเทียนจินแล้วกับเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเศษ ๆ จากจุดนี้เมื่อออกจากรถไฟก็ให้ตามป้าย Bus Station ในสถานีไปเลยครับ มันจะนำทางเราไปยังป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่ใต้ดินเหมือนกัน
เทียนจินมีรถไฟใต้ดินครับแต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเท่ากับรถเมล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจะไปวัดเจี้ยนฝูด้วยแล้วรถเมล์นี่แหละครับถูกสุดสะดวกสุด ป้ายรถเมล์ในสถานีรถไฟนั้นมีหลายป้ายวิ่งแยกกันไปตามทิศต่าง ๆ ให้คุณผู้อ่านสังเกตป้าย C2 ที่มีเลข "92" รวมอยู่ด้วย เพราะเราต้องโดยสารรถเมล์สายนี้ไปวัดกัน
เมื่อขึ้นรถแล้วเอาง่ายที่สุดก็นับจุดจอดเอาครับ วัดเจี้ยนฝูกวนอิมจะอยู่จุดจอดที่ 8 หรือป้ายรถเมล์ที่มีชื่อว่า "ต๋า จื๋อ กู โฮ่ ไถ" "Da Zhi Gu Hou Tai" ซึ่งเมื่อลงจากรถจะเห็นกำแพงวัดทันที
ส่วนขากลับก็นั่งสายเดิมเพียงแต่ไปรอที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่เรียบถนนอีกเส้นหนึ่งของวัดตามภาพ
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับนักท่องเที่ยวสายบุญคงอิ่มอกอิ่มใจอยากจะตามรอยไม่น้อย หากผมได้มีโอกาสไปวัดไหน ๆ ในปักกิ่งหรือใกล้ ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนไทยรู้จักอีก ก็จะพยายามเขียนให้ได้เดินทางมาสักการะกันด้วยตัวเองง่าย ๆ อีกนะครับ แล้วพบกันสัปดาห์หน้า สวัสดีครับ