ผู้ที่ไปเที่ยวพระราชวังโบราณกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม มักจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หากไปช่วงเช้า เมื่อเที่ยวเสร็จ ก็ถึงเวลารับประทานอาหารพอดีและต้องหาที่ทาน หากไปช่วงบ่าย ก็ต้องทานอาหารก่อนจะเข้าวัง หรือไม่ก็ต้องติดขนมผลไม้เพื่อเอาไว้ทานกันในวัง นี่คือ เรื่องปากท้องสำหรับผู้เข้าวังทั่วๆ ไป ที่เคยพบมาแล้วหลายครั้งหลายปี

ด้านนอกพระราชวังโบราณ มีร้านอาหารหลายร้าน บริการอาหารให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานด่วน มีข้าวราด บะหมี่ ชุดละ 30-40 หยวน หรือ 150-200 บาท เกี๊ยวชุดละประมาณ 20 หยวน ราว 100 บาท ราคานี้นับว่าอยู่ในระดับที่รับได้ แต่ภายในพระราชวังไม่มีการเปิดร้านอาหาร

ล่าสุดตั้งแต่ช่วงวันชาติจีน (1 ต.ค.) ปี 2016 เป็นต้นมา มีการเปิดร้านอาหาร "ปิงเจี้ยว" (冰窖，Bing Jiao，Ice Storehouses) ภายในพระราชวังโบราณ เป็นการช่วยแก้ปัญหาปากท้องให้นักท่องเที่ยว และเป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งสำหรับผู้ที่นิยม "เปลี่ยนที่" กินข้าว นั่นก็คือ เปลี่ยนที่กินข้าวที่คุ้นชินมาเป็นในพระราชวังโบราณ และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันจะลืมเลือน

สถานที่ตั้งของร้านอาหาร "ปิงเจี้ยว" เดิมเป็นโรงน้ำแข็งของพระราชวังโบราณ การรับประทานอาหารที่นี่ก็คือ รับประทานอาหารในโรงน้ำแข็งของวัง

ภายในร้าน มีอาหารเป็นชุด เช่น ชุดซาลาเปาประกอบด้วยซาลาเปา 8 ลูกที่อยู่ในเข่ง ผัก 1 จาน สลัด 1 จาน และ "กงถิงหยั่งเซิงโจว" หรือ โจ๊กบำรุงร่างกาย ข้าว ชุดบะหมี่ ประกอบด้วยบะหมี่ 1 ชาม กับข้าว 1 จาน (นำไปผสมกับบะหมี่ได้) ผัก 1 จาน และสลัด 1 จาน ราคาชุดละ 46 หยวน ราว230 บาท นอกจากนี้ ยังมีชุดอาหาร "หวังหมู่ฟั่น" (王母饭, หรือ ข้าวเจ้าแม่หวังหมู่, The Queen Mother of the West) ชุดขนม 4 อย่าง ชุดเป็ดปักกิ่ง ราคาต่างกันตั้งแต่ 32-298 หยวน หรือ 160-1,500 บาท นับว่ามีอาหารหลากหลายอย่างให้เลือก ราคาก็ไม่แพงเกินไปนัก

ส่วนน้ำแร่นั้น ขายขวดละ 4 หยวน เมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ แล้ว ไม่แพง

เครื่องถ้วย ชาม และจานในร้านอาหาร "ปิงเจี้ยว" มีความสวยประณีต ที่เด่นที่สุดและต่างจากที่อื่นก็คือ มีการแกะสลักอักษร 2 ตัวว่า "ยี่ว์ซ่าน" (御膳) แปลว่า "พระอาหารของจักรพรรดิ" ผู้รับประทานก็จะทานดั่ง "เสวย" เหมือนพระจักรพรรดิ บรรยากาศนี้มีแต่ในพระราชวังโบราณที่เดียว

(IN/LING)