1

หากจะเรียกว่าเป็นปัญหาก็ดูจะรุนแรงเกินไป ผมขอเรียกว่าเป็นความหงุดหงิดใจดีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีแต่ผมคนเดียวครับที่ต้องเผชิญกับสภาพ "ช่วงนั้นของปี" ทว่าชาวต่างชาติที่กำลังทำงานอยู่ในแดนมังกรแทบทุกคน ต่างก็มีชะตากรรมกรรมร่วมกันกับผม ผมกำลังพูดถึงการ "ต่อวีซ่า" ที่มันจะมีช่วงนั้นของปี ที่จะต้องยุ่งเรื่องเตรียมเอกสาร เตรียมเงิน เตรียมรูปถ่าย เตรียมเวลา และนานาสารพัด เพราะจีนเขาไม่มีนโยบายออกวีซ่าทำงานระยะยาวให้ชาวต่างชาติ

แต่สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวให้ชื่นใจแล้วครับ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีนออกมาแถลงว่ากำลังทดลองใช้นโยบายผ่อนปรนการออกวีซ่าทำงานของชาวต่างชาติให้ได้อยู่กันยาวขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจหรือที่รัฐบาลจีนเรียกมันว่า "New Normal" นั่นเอง

โครงการทดลองที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนที่ว่านี้ ไม่ได้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศนะครับ จะมีก็แต่เฉพาะ 9 มณฑล/เมือง และ 11 เขตการค้าเสรีที่จีนจัดให้เป็นเขตสาธิตนวัตกรรม เช่น กรุงปักกิ่ง มณฑลอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย นครเทียนจิน และนครฉงชิ่ง เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีเงื่อนไขยิบย่อยอีก อาทิ ผู้ขอวีซ่าจะต้องทำงานในจีนต่อเนื่องกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี หากจะขอวีซ่า 5 ปี หรือต้องทำงานต่อเนื่องกันแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี หากจะขอวีซ่าถาวร และไม่ว่าจะเข้าข่ายในกรณีไหน ผู้ขอจะต้องอาศัยอยู่ภายในประเทศจีนไม่ต่ำกว่า 6 เดือนในแต่ละปี ต้องมีรายได้และภาษีเงินได้ขั้นต่ำตามกำหนด และยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย (อ่านไปอ่านมาก็เยอะปาดเหงื่อเหมือนกันนะนี่ ) แต่คุณสมบัติทั้งหมดก็ตั้งไว้เพื่อคัดเลือกคนคุณภาพที่สุดเข้ามาช่วยพัฒนาบ้านเมืองนั่นแหละครับ

เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะยังแง้มอีกนิดถึงการออกวีซ่าถาวรหรือกรีนการ์ดว่า ขณะนี้ได้มอบหมายกระจายอำนาจให้คณะทำงานของแต่ละเขตการค้าเสรีเป็นฝ่ายดำเนินการคัดสรรแรงงานต่างชาติชั้นยอดแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้การขอวีซ่าถาวรให้ชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวถูกหยุดชะงักชั่วคราวเนื่องจากขัดต่อระเบียบของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น

และภายใต้กฎใหม่นี้ นักเรียนต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในจีนแล้วยังอยากโลดแล่นหาประสบการณ์การทำงาน หรือตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นของตัวเองก็ยังสามารถทำเรื่องขออยู่ต่อได้อีก 2-5 ปีด้วยเช่นกัน

มองกันยาว ๆ เมื่อนึกถึงแผนข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และการคืนชีพเส้นทางสายไหมในตำนานแล้ว ก็คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยหากเราสามารถได้รับโอกาสให้เดินทางเข้า-ออกจีนได้สะดวกนะครับ ใครยังมีไฟอยากจะเรียนต่อโทต่อเอกสักใบ จีนก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี (เห็นว่าตอนนี้ทุน CSC ของกระทรวงศึกษาธิการจีน ก็เปิดรับสมัครอยู่) ส่วนใครที่วัยล่วงเลยแล้วก็ลองข้ามขั้นหาลู่ทางเข้ามาทำงานตามเขตตามพื้นที่ที่ผมพูดถึงดู มาอยู่ด้วยกันอบอุ่นดีครับ