ตอบ ลักษณะพิเศษของประเทศไทยก็คือ มีชาวจีนโพ้นทะเลและชาวไทยเชื้อสายจีนที่ผสมกลมกลืนกับสังคมไทยเป็นอย่างดี พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีและให้การสนับสนุนรัฐบาลไทย จึงสามารถทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้กับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ดังนั้น รัฐบาลจีนจึงสนใจและเอาใจใส่ชาวจีนเหล่านี้มาก ต้องการเห็นพวกเขาสนับสนุนรัฐบาลไทยต่อไป และมีบทบาทช่วยสร้างสรรค์ประเทศไทยอย่างเต็มที่
หากให้ท่านมองย้อนหลังไป 30 ปี ณ วันนี้ ท่านพอใจหรือไม่คะ กับสภาพการพัฒนาของความสัมพันธ์สองประเทศเรา ?
ตอบ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน มีพัฒนาการที่ดีมาก เวลานี้การไปมาหาสู่กันเกิดขึ้นแทบทุกด้าน ไม่ว่าด้านการค้า ด้านการท่องเที่ยว ด้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ตลอดจนการไปมาหาสู่กันของบุคคลฝ่ายต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลก็มีการเยี่ยมเยือนกันในทุกระดับชั้น
วงการทูตของสองฝ่ายก็สนิทสนมกันมาก ปีนี้เรามีโครงการว่า ทูตทั้งสองฝ่าย ทั้งทูตอดีตและทูตปัจจุบัน จะเดินทางไปเยี่ยมเยือนกัน ซึ่งไม่เคยมีประเทศใดใกล้ชิดสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของความสัมพันธ์จีน-ไทยก็คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ของไทยล้วนมีความเข้าใจที่ดีและสนิทสนมกับจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าฟ้าหญิงสิรินธร เสด็จฯมาเยือนจีนหลายต่อหลายครั้ง ทรงศึกษาภาษาและวัฒนธรรมจีน เข้าใจประเทศจีนอย่างดี มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับจีนมาก ไม่เพียงเท่านั้น พระบรมราชินีของไทย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช และพระราชวงศ์อื่น ๆ ก็เดินทางมาเยือนจีนบ่อย ๆ จึงอาจกล่าวได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทย อยู่เหนือกว่าระดับความสัมพันธ์ทางการทูตทั่วไป
อยากให้ท่านไฉช่วยมองไปในอนาคตค่ะ มีอะไรที่ต้องสนใจลงแรงทำงานกันต่อไปบ้างคะ ?
ตอบ งานที่ต้องทำต่อไปมีให้ทำไม่รู้จักหมดหรอก ยกตัวอย่างเช่น ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นประเทศเกษตรกรรมด้วยกัน สินค้าส่งออกจึงคล้าย ๆ กัน ต้องออกไปแข่งขันกัน บางครั้งถึงกับขัดแย้งกันบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา ต้องหาทางค่อย ๆ แก้ปัญหากันต่อไป.......
ก่อนกลับท่านไฉเจ๋อหมินยังฝากบอกถึงมิตรชาวไทยว่า ท่านไปเป็นทูตมาหลายประเทศก็จริง แต่สำหรับไทยแล้ว มีความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง รู้สึกสนิทชิดเชื้อมาก เคยไปเที่ยวอีก 6-7 ครั้งหลังเกษียณ ท่านชอบอาหารไทยและขอบเที่ยวทะเล อาหารไทยมื้ออร่อยที่สุดที่ท่านจำได้ ก็คือมื้อที่ได้รับพระราชทานโอกาสให้ไปร่วมโต๊ะเสวยที่ในวัง และรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยหลายครั้ง
ท่านผู้ฟังรู้สึกหัวใจพองโตไปกับดิฉันหรือยังคะ หลังจากที่ได้คุยกับท่านไฉเจ๋อหมิน ท่านทูตคนแรกของจีนที่รัก และยังคงรักประเทศไทยอยู่จนถึงทุกวันนี้ ......
ได้ความรู้มากมายจากท่านทูตคนแรกของจีนแล้ว ตอนนี้ดิฉันจะพาท่านไปคุยกับท่านทูตคนปัจจุบันของไทยประจำประเทศจีนบ้าง ตามที่ได้สัญญากันไว้ในตอนต้นไงคะ
ฯพณฯ เอกอัครราชทูตจุลพงศ์ โนนศรีชัย ให้การต้อนรับและคุยกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอด้วยไมตรีจิตและความอบอุ่น ท่านเคยเป็นหัวหน้าสำนักงานการค้าไทยที่ไต้หวันอยู่ 4 ปี ก่อนที่จะไปรับตำแหน่งทูตไทยประจำประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และปัจจุบันดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนค่ะ
ท่านทูตคะ ในฐานะที่ท่านเป็นตัวแทนประเทศไทย ขอเรียนถามว่าไทยให้ความสำคัญกับประเทศจีนมากน้อยแค่ไหน ?
ตอบ ความสำคัญที่ไทยให้ต่อประเทศจีนในแง่ของรัฐบาลมีมาก เพราะไม่ว่าความมั่นคงทางการเมือง ประเทศจีนก็กำลังเข้มแข็ง เป็นผู้นำของภูมิภาคและของโลก และในขณะนี้ในทางเศรษฐกิจก็โตขึ้นอย่างมหาศาล เป็นตลาดที่สำคัญของเราอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรมหรือสินค้าเกษตรก็ล้วนเป็นตลาดอันดับหนึ่งของเราทั้งนั้น ถ้าจะพูดถึงเรื่องเกษตร ประชากรไทยเรากว่าครึ่งหนึ่งเป็นเกษตรกร ที่นี่ก็เป็นตลาดอันดับหนึ่งของเรา ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง มันสำปะหลัง ที่นี่ก็เป็นอันดับหนึ่ง
ก็แล้วไทยก็เป็นประเทศเกษตรกรรมด้วย อย่างนี้จะไม่ขัดแย้งกันในการส่งสินค้ามาแข่งกันเองหรือคะ ?
ตอบ ก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกัน สิ่งที่เราผลิตเป็นสิ่งที่จีนต้องการ แล้วก็เกื้อกูลต่อกันและกัน ในส่วนของจีนนั้น ถึงแม้ด้านการเกษตรเขาจะผลิตได้มาก แต่เนื่องจากประเทศเขาใหญ่โต เขาไม่พอเพียง เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้เขายังต้องการอีกเยอะจากประเทศไทย อนาคตเศรษฐกิจของเขายิ่งพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เราก็จะยิ่งมีโอกาสขายสินค้าของเราอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้าว เขาก็ผลิตแต่ไม่พอเพียง ข้าวบางอย่างเขาก็ไม่มีอย่างเช่นข้าวหอมมะลิ เพราะฉะนั้นจะไม่ได้แข่งขันกันในแง่นั้น ที่เราซื้อเขาก็เป็นแอปเปิ้ลและแพร์ซึ่งเราก็ไม่ได้ปลูก ต้องมองในภาพรวม มีคนวิพากษ์วิจารณ์เยอะ เกี่ยวกับสินค้าเกษตรไทยจีน ตอนนี้ผลไม้ไทยเข้ามาขายในจีนเยอะ หลายแสนตัน เป็นมูลค่าหลายพันหลายหมื่นล้านบาท
1 2 3 4 5
|