มีหนังสือทุกประเภทให้เลือกอ่าน    มุมลงทะเบียนเวลามีงานเสวนา

แปลเป็นไทยว่า "หนอนหนังสือ" ถ้าไม่ใช่นักอ่านจริง ก็คงไม่มีใครกล้าสะเปะสะปะเดินขึ้นไปแน่นอน

ผมยืนแหงนมองคอตั้งบ่ากับความชันของบันได แล้วนึกในใจว่า ร้านนี้นอกจากจะคัดเฉพาะหนอนหนังสือแล้ว ยังคัดคนสุขภาพข้อเข่าดีอีกด้วย

ร้าน Book Worm แห่งนี้เปิดมาราว 10 ปี โดยเริ่มแรกนั้น Alexandra Pearson ได้เริ่มทำห้องสมุดเล็กจากหนังสือสะสมของเธอประมาณ 2000 เล่ม และเปิดร้านอาหารไม่ใหญ่นัก ที่เธอสามารถดูแลเองได้คนเดียว และมีการจัดกิจกรรมการอ่านบ้างประปราย ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยงบ้าง แต่เธอก็อยู่รอดมาได้

ในปี 2003 ปีเตอร์ กอล์ฟ นักข่าวที่ประจำในปักกิ่งได้แวะเข้ามา และได้สมัครสมาชิกลำดับที่สองของร้าน จากนั้นเขาก็มาที่บุ๊กเวิร์มเป็นประจำ ทั้งช่วยปลูกต้นไม้ดอกไม้ จนในที่สุดก็กลายมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของร้านหนังสือแห่งนี้ที่ไม่เล็กอีกต่อไป เพราะปีเตอร์ กอล์ฟ ได้ขายสาขาไปเปิดที่เฉิงตูและซูโจว

และเมื่อ 2 ปีที่แล้ว บุ๊ก เวิร์มก็ก้าวสู่โฉมหน้าอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะได้ Jenny Niven หุ้นส่วนอีกคนเข้าช่วยดูแลในเรื่องการตลาด การสรรหานักเขียนมาเสวนา การจัดงานให้มีชีวิตชีวา รวมทั้งสร้างสรรค์งานที่สามารถเชื่อมโยงร้านทั้ง 3 สาขาเข้าด้วยกัน และการจัดงานหนังสือนานาชาติ ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของบุ๊กเวิร์ม และมีการวางแผนไว้แล้วว่างานนี้จะจัดขึ้นอีกครั้งในปีหน้าระหว่างวันที่ 6 – 21 มีนาคม

ปัจจุบันในส่วนเช่ามีหนังสืออยู่บนชั้นกว่า 16,112 เล่ม ทุกผนังที่รายล้อม สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เปิดให้บริการทั้งเช่า และขาย ทั้งยังมีบริการสั่งซื้อด้วย หากเราต้องการหนังสือที่ไม่มีในร้าน โดยการฝากชื่อผู้เขียน ชื่อหนังสือ ISBN ไว้ให้ พนักงานก็จะพยายามสั่งหนังสือมาให้เรา

การเป็นสมาชิกที่นี่ก็สนนราคาไม่แพงเลย อัตราในการสมาชิกมีแบบ 6 เดือน, 1 ปี และแบบครอบครัว ในราคา 200, 300 และ 500 หยวนตามลำดับ สำหรับสมาชิก 2 แบบแรกสามารถยืมหนังสือได้ 2 เล่ม ต่อสัปดาห์ และแบบหลังยืมได้ 5 เล่มต่อสัปดาห์

สมาชิกหลักของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ที่นี่ และมีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นชาวปักกิ่งที่ใช้ภาษาอังกฤษซึ่งนับวันจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย จากการทำโพลด้วยสายตาของผมในวันแรกที่มาถึงนั้น มีหัวดำๆ อยู่ในร้านประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นฝรั่งล้วน

Mr.Amilon Reis ชาวบราซิลที่พำนักและทำงานอยู่ที่ปักกิ่งก็เป็นหนอนหนังสือผู้หนึ่งที่หลงรักร้านหนังสือแห่งนี้ และเขาได้ให้สัมภาษณ์ผมถึงการพบรักครั้งนี้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรว่า

ที่นี่มีหนังสือให้เลือกครบทุกหมวดหมู่ที่ห้องสมุดมาตรฐานส่วนใหญ่ควรจะมี อาทิ วรรณกรรม สารคดี กวีนิพนธ์ ปรัชญา ศิลปะ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคล ภาษา ท่องเที่ยว และเรื่องที่เกี่ยวกับจีน รวมถึงนิตยสารต่างๆ ด้วย