เคาน์เตอร์บาร์ ห้องสมุดปลอดบุหรี่
หนังสือเหล่านี้จะยังคงเพิ่มจำนวนบนชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ ที่สำคัญที่นี่จะมีหนังสือยอดนิยม หรือหนังสือที่ขายดีระดับโลกด้วย ไม่ตกกระแสกันเลยทีเดียว
มีมุมอินเตอร์เน็ตที่ใช้เครื่องแม็กอินทอชอย่างดี ไว้ให้สื่อสารกับเพื่อนในอีกมุมหนึ่งของโลก และส่งงานได้ เพราะลูกค้าและสมาชิกของที่นี่ โดยมากเป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในปักกิ่ง และโดยมีมากที่ทำงานในสายสื่อสารมวลชน
ด้านในสุดซึ่งไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพเป็นมุมขายหนังสือ มุมนั่งสนทนา และอ่านหนังสือ มีภาพของนักเขียนมากมายที่เคยมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเขียนกับนักอ่านที่นี่ มีมุมขายของชำร่วยต่างๆ เช่น กระเป๋าผ้า เครื่องเขียน และของที่ระลึก รวมถึงมุมการกุศล ที่ล่าสุดก็เพิ่งระดมบริจาคช่วยเหยื่อภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่อำเภอเวิ่นชวนไปหมาดๆ
ท่านผู้ฟังคงรู้สึกว่า ที่ฟังมาทั้งหมดก็ไม่เห็นอะไรที่แตกต่างจากห้องสมุดหรือร้านเช้าหนังสือ ร้านขายหนังสือทั่วไปตรงไหน
ครับ!...ถ้ามีแค่นี้ Book Worm ก็คงไม่เป็นที่พูดถึงปากต่อปากเหมือนเช่นทุกวันนี้ และคงไม่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 2,500 คน เฉพาะที่สาขาปักกิ่ง และยังมีแผนที่จะเปิดสาขา 2 ในปักกิ่งเร็ววันนี้ด้วยที่อาคารหยินหยาง
ความพิเศษอย่างแรกของที่นี่คือ "บรรยากาศ" เป็นบรรยากาศที่อวลไอไปด้วยความเป็นกันเอง มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่ทึมทึบและเคร่งขรึม ทั้งพนักงาน ผู้คนที่มาใช้บริการ ชั้นหนังสือ ชั้นวางเหล้า แสงไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ทุกอย่างก่อตัวรวมกันเป็นผู้หญิงอายุราว 40 ต้น สวมแว่น แต่ตัวลำลอง แต่ว่าดูมีระดับ มีรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ แม้จะไม่ขยันยิ้ม แต่ก็รู้ว่ามีความซุกซนในดวงตา ที่พร้อมจะกระโดดโลดเต้นได้เต็มเหวี่ยงถ้ามีปาร์ตี้
อย่างที่สองคือ ที่นี่มีอาหารบริการ ทั้งกินเล่นเป็นกลับแกล้ม หรือกินจริงจังเป็นจานๆ ซึ่งเปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า และสั่งจานสุดท้ายได้ที่เวลา 5 ทุ่มตรง เพราะร้านปิดตี 2 นั่นก็หมายความว่าหากเรามีเวลาทั้งวัน และอีกทั้งค่อนคืน ก็สามารถอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนพนักงานได้ตลอด ฝากท้องไว้ได้ทั้ง 3 มื้อ
อย่างที่สามคือ ที่นี่มีกิจกรรมพิเศษมากมาย ที่เกี่ยวกับการอ่านการเขียนโดยเฉพาะการเชิญนักเขียนชื่อดังมาบรรยายพิเศษ การเล่นเกมทายปัญหาชิงรางวัล งานมหกรรมหนังสือนานาชาติ มีดนตรีสด มีงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นตามวาระที่ทางร้านกำหนด
สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ การได้มีโอกาสได้รับฟังนักเขียนระดับโลก หรือไม่ก็ระดับเอเชีย ที่มานั่งสนทนาถึงการทำงานเขียน และหนังสือเล่มที่กำลังโปรโมตอยู่ รวมถึงทัศนคติในการมองโลก และเทคนิกการเขียน
ผมเชื่อว่าคนที่เป็นหนอนหนังสือทุกคน ต้องมีความใฝ่ฝันที่จะเขียนหนังสือของตัวเองออกมาให้ได้สักครั้ง แต่อาจไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน อุปสรรคเป็นอย่างไร ต้องคิดอย่างไรจึงจะเขียนออกมาได้ มีคำถามมากมายก่ายกอง ที่พอได้มาฟังนักเขียนเล่าประสบการณ์ของตัวเองแล้ว ก็จะรู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
1 2 3 4 5
|