สวัสดีครับท่านผู้ฟัง รายการสถานีต่อไปวันนี้ ผมจะพาท่านไปตระเวนราตรี เปิดหูเปิดตาชีวิตยามค่ำคืนกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักเดินทางทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติให้แวะเวียนมาเยี่ยมชมมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใดของปี
สถานที่แห่งนั้นคือ "ทะเลสาบโฮ่วไห่" ย่านท่องเที่ยวที่รวมร้านอาหาร ผับ และบาร์ไว้จำนวนมาก แต่ละร้านตกแต่งในรูปแบบของตนเอง ตั้งรายรอบทะเลสาบขนาดใหญ่ใจกลางกรุงปักกิ่ง
การเดินทางด้วยรถไปใต้ดินไปโฮ่วไห่นั้นไม่ยาก เลยนั่งสายที่ 1 แล้วไปเปลี่ยนรถเป็นสาย 2 ที่สถานีฟู่ชิงเหมินเช่นเคย แล้วมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ มีเป้าหมายที่สถานีกูโหลต้าจี (Guloudajie) ทางรถไปสายนี้จะขนานไปกับถนนวงแหวนที่ 2 เมื่อขึ้นมา ก็ถามพนักงานได้เลยว่าโฮ่วไห่ไปทางไหน หรือถ้าขี้เกียจถามก็ให้ขึ้นที่สถานีทางทิศใต้ จากนั้นเดินเลาะผ่านปากทางเข้าหูถ้งมากมายไปไม่เกิน 10 นาที ก็จะถึงทางเข้าไปยังทะเลสาบชื่อดังแห่งนี้
โฮ่วไห่ เป็นทะเลสาบที่ขุดขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน (ศตวรรษที่ 14) อยู่ทางทิศเหนือของพระราชวังต้องห้าม ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาบซีไห่ (Xihai) และเฉียนไห่ (Qianhai) ทะเลสาบทั้งสามแห่งนี้เรียกรวมกันว่า "สือช่าไห่" มีจุดเชื่อมกันเป็นคอคอดเล็กๆ นัยว่าคงไว้เพื่อตรวจความปลอดภัยในสมัยก่อน ทะเลสาบทั้งสามแห่งนี้ขุดขึ้นเพื่อขนส่งสินค้าจากคลองขุดเข้ามายังพระราชวังต้องห้าม
จริงๆ แล้ว คำว่า "ไห่" ในภาษาจีนนั้นแปลว่า "ทะเล" ไม่ได้แปลว่าทะเลสาบ ที่เรียกอย่างนี่ก็เพราะว่าเป็นความเชื่อของจักรพรรดิว่า ทะเลสาบเหล่านี้ได้จำลองแบบมาจากทะเลตงไห่ ซึ่งเป็นทะเลศักดิ์สิทธิ์ ที่กลางทะเลมีภูเขาบรรจุยาอายุวัฒนะไว้ เมื่อขุดทะเลสาบขึ้นมา จึงเรียกว่า "ทะเล" และสร้าง "เกาะกลางน้ำ" ขึ้นมาเป็นเสมือนภูเขาศักดิ์ เพื่อที่จักรพรรดิผู้สร้างจะได้มีอายุยืนหมื่นๆ ปี
สิ่งที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันนอกจากตัวทะเลสาบ และเกาะกลางน้ำแล้ว ยังมีสะพานโบราณที่อยู่ตามคอคอดจุดเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นหินแกะสลักเป็นรูปสัตว์ในวรรณคดีที่มีใบหน้าน่าเกรงขามนอนเฝ้าอยู่ทุกสะพาน
สถานที่แห่งนี้เพิ่งมามีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนของกรุงปักกิ่งไม่กี่ปีนี้เอง
เมื่อก่อนนั้น โฮ่วไห่เป็นเพียงสถานที่ผักผ่อนหย่อนใจของชนชั้นล่าง ดังที่หนังสือคู่มือท่องเที่ยวชื่อ "In Search of Old Beijing" ในปี 1930 บรรยายถึงสถานที่แห่งนี้ว่า "ในช่วงฤดูร้อน "ทะเล" แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและสูดอากาศบริสุทธิ์ของชนชั้นล่างนับพันๆ คน พวกเขาจะใช้เวลาทั้งวันร้านน้ำชา หรือไม่ก็ฟังนักเล่านิทานเล่าเรื่อง นักร้องเพลงพื้นบ้าน หรือไม่ก็ฟังการบรรเลงดนตรี"
(แทรกเสียงร้องเพลงของลุงนักกระโดดน้ำ)
1 2 3 4
|