เสียงร้องเพลงที่ท่านได้ฟังไปเมื่อสักครู่ คือเสียงของคุณลุงนักกระโดดน้ำประจำโฮ่วไห่ แกขึ้นไปยืนอยู่บนเสาของราวรั้วที่กั้นรอบทะเลสาบ เปล่งเสียงออกจากปอดที่ทรงพลังราวกับเสียงของนายพลก่อนออกศึก ทุกสายตาและกล้องถ่ายรูปจับอยู่ที่แกเป็นตาเดียวและเลนส์เดียว พอเพลงดำเนินมาถึงท่อนสุดท้ายแกก็ชำเลืองมองซ้ายขวา ทำนองเป็นสัญญาณว่ากำลังจะกระโดดแล้วนะ
และก็เป็นเช่นนั้นจริง นอกจากเสียงแตกกระจายของผิวน้ำแล้ว ก็มีเสียงแชะๆ จากชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปนับสิบตัว เสียงร้อง "อู้" ของคนที่อยู่รายรอบ ราวกับสัมผัสความหนาวเย็นของน้ำได้แทนแก และเสียงวี้ดว้ายของสาวๆ ที่น้ำเย็นอุณหภูมิเกือบเยือกแข็งกระเซ็นใส่
แกว่ายท่าผีเสื้ออกไปไม่ไกลนักก็ว่ายวนกลับมา ปีนขึ้นตลิ่งมาเช็กภาพกับตากล้องทุกคนว่าจับภาพได้ดีขนาดไหน เสร็จแล้วแกก็ส่ายหน้า ทำนองว่าใช้ไม่ได้ แล้วแกก็ปีนขึ้นไปยืนหัวเสาบอกให้เราถ่ายใหม่
นี่เป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งของชาวปักกิ่งตั้งแต่ยุคก่อนที่ยังเชื่อถือสืบต่อกันมา ว่าการว่ายน้ำในฤดูหนาวจะทำให้ร่างกายแข็งแรง
เดินถัดไปจากชมรมนักกระโดดน้ำไม่ไกลนัก ก็เป็นชมรมซอ ชมรมไทเก็ก วงเตะลูกขนไก่ วงไพ่ นักตกปลา และนักเป่าแช็กโซโฟน
ภาพที่หนังสือท่องเที่ยวเมื่อ 70 กว่าปีที่แล้วบรรยายไว้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ผู้คนยังออกจากห้องหับอันอุดอู้มาสูดอากาศ มาออกกำลังกาย และพบปะสังสรรค์กันเช่นเดิม
ผมชอบวิถีชีวิตแบบนี้ของคนจีนมาก ทุกคนกล้าแสดงออกถึงสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ และทำสิ่งนั้นเป็นประจำโดยไม่รู้สึกว่าเบื่อหน่ายเลยสักนิด แต่กลับเต็มไปด้วยความสุขที่ประทับอยู่ในแววตาของทุกคน
เสียงซอที่บรรจงเปล่งโน้ตออกมา และเสียงร้องโอเปร่าในแบบจีนขับบรรยากาศให้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเรียบง่ายแบบชาวตะวันออก บางห้วงจังหวะที่มีการทอดเสียง เสียงดนตรีฮิปฮอป และจังหวะแดนซ์จากบาร์ในฝั่งตรงกันข้ามก็แทรกตัวเข้ามาแทนที่
ผมนั่งมองคุณลุงหลับตาพริ้ม ขยับข้อมืออย่างอ่อนช้อยและมีความสุข ท่ามกลางแสงไฟหลากสีที่กระพริบพร่าพรายอยู่เบื้องหลัง เพราะสายตาปรับโฟกัสนิ่งอยู่เพียงแค่คุณลุงนักสีซอท่านนี้เท่านั้น
ภาพเบื้องหน้าราวกับเป็นตัวแทนของความเป็นปักกิ่ง และประเทศจีนในปัจจุบัน ในขณะที่ยังเป็นตัวของตัวเอง แต่ก็มีภาพของความทันสมัยซ้อนทับอยู่ด้วย
(แทรกเพลง)
1 2 3 4
|