วันนี้ พวกเราได้เสร็จสิ้นกิจกรรมทำข่าวที่เมืองซานหนาน ได้กลับสู่เมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต ซึ่งก็เป็นสถานีสุดท้ายของกิจกรรมทำข่าวครั้งนี้ด้วย

เมื่อทบทวน 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเข้าทิเบตจากมณฑลชิงไห่  เดินทางไปถึงเมืองน่าชวีของทิเบตก่อน แล้วไปยังเมืองซานหนาน ตอนนี้กลับสู่เมืองลาซา กล่าวได้ว่า เหมาะกับประเด็นทำข่าวของการเดินทางครั้งนี้ ย้อนรอยเส้นทางสู่ฟ้า ส่วนระยะทางครั้งนี้ เราก็ได้ยินได้เห็นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงของทิเบตด้วย

70 ปีก่อน ทหารปลดปล่อยประชาชนจีนเชิดชูเจตนารมณ์ที่ไม่กลัวความยากลำบากและไม่กลัวเสียสละ ถืออุปกรณ์ง่ายที่สุดได้ตัดถนนเส้นทางสายชิงไห่-ทิเบตและสายอื่นที่เข้าทิเบต มีทหารไม่น้อยยังได้พลีชีพที่ล้ำค่า ปัจจุบัน การเข้าทิเบตไม่เพียงแต่มีถนนหลายเส้นทาง หากยังมีทางรถไฟชิงไห่-ทิเบต นอกจากนี้ ทางรถไฟสายลาซา-รื่อคาเจ๋อที่เปิดเดินรถเมื่อปี 2014 และทางรถไฟสายลาซา-หลินจือที่เพิ่งเปิดเดินรถเมื่อหนึ่งเดือนก่อนก็ทำให้การคมนาคมของทิเบตสะดวกมากขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ 7 เมืองและพื้นที่ของทิเบตได้ก่อสร้างสนามบินเสร็จแล้ว 6 แห่ง การติตต่อระหว่างทิเบตกับมณฑลอื่นก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมเดินทางมาถึงเมืองลาซา เมื่อ 2 ปีก่อน ก่อนหน้าครบรอบ 70 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ผมเคยไปทำข่าวที่กรมศึกษาธิการทิเบต และโรงเรียนสาธิตลาซาปักกิ่งเพื่อรายงานนโยบายการศึกษาทิเบต ส่วนคราวนี้มารายงานข่าวที่เมืองลาซา ก็เนื่องในครบรอบ 70 ปีการปลดปล่อยทิเบตด้วยสันติภาพ

จนถึงปลายปี 2019 ผู้ยากจนที่ลงทะเบียน 628,000 คนในทั่วเขตปกครองตนเองทิเบตได้พ้นจากความยากจนทั้งสิ้น 74 อำเภอและเขตพื้นจากความยากจน เวลานี้ ทั่วประเทศจีนได้สร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านแล้ว ได้แก้ไขปัญหาความยากจนโดยิส้นเชิงเป็นประวัติการณ์ กล่าวได้ว่า การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมทิเบตในรอบ 70 ปีมานี้เชื่อมโยงกับชะตากรรมของประเทศอย่างใกล้ชิด

ต่อไป ผมยังจะทำข่าวที่เมืองลาซาเป็นเวลา 2 วัน การเปลี่ยนแปลงใหม่และสิ่งที่น่าสนใจของลาซา ชุยจะเล่าให้เพื่อน ๆ คนไทย

ชุย อี๋เหมิง วันที่ 28 กรกฎาคม

ที่เมืองลาซา เขตปกครองตนเองทิเทต